6 ภาคีเครือข่าย ชั้นนำจับมือสร้างการเข้าถึงการศึกษา ทักษะอาชีพ



  • ศึกษาธิการ ร่วมพิธี MOU “การจัดการศึกษาสำหรับคนพิการ”
  • ให้ดำรงชีวิตที่เป็นสุขอย่างเต็มภาคภูมิ

นางกนกวรรณ วิลาวัลย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานพิธีลงนามความร่วมมือการจัดการศึกษาสำหรับคนพิการ ระหว่างกระทรวงศึกษาธิการ โดยสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบ และการศึกษาตามอัธยาศัย กับหน่วยงานภาคีเครือข่ายด้านการจัดการศึกษาสำหรับคนพิการ 6 หน่วยงาน ณ ห้องประชุมราชวัลลภ กระทรวงศึกษาธิการ โดยมีนายกมล รอดคล้าย ที่ปรึกษา รมช.ศึกษาธิการ นายพะโยม ชิณวงศ์ ประธานคณะทำงาน รมช.ศึกษาธิการ นายประเสริฐ บุญเรือง ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ตลอดจนผู้บริหาร บุคลากร และสื่อมวลชน เข้าร่วม


รมช.ศึกษาธิการ กล่าวตอนหนึ่งว่า จากนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล ซึ่งกำหนดไว้ในยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ในด้านการสร้างโอกาสและความเสมอภาคทางสังคม เพื่อแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำทางสังคม พัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน และยกระดับประเทศให้สามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผู้ด้อยโอกาสทางสังคม ที่เป็นกลุ่มเป้าหมายคนพิการที่อยู่ในสภาวะยากลำบาก กว่า 1.9 ล้านคน และในจำนวนนี้ ยังพบคนพิการที่ขาดโอกาสทางการศึกษาจำนวนมาก ประกอบกับนโยบาย กศน. สช. WOW WOW ก้าวสู่ยุคดิจิทัล ของรัฐมนตรีคนนี้ เพื่อต้องการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานใน 6 เรื่องดี (6Good) ที่สำคัญต่อการพัฒนาการเรียนรู้ตลอดชีวิตของคนทุกช่วงวัย โดยหนึ่งในนั้นคือเรื่องของ Good Partnership ที่จะเกิดความร่วมมือเพื่อการจัดการศึกษาสำหรับคนพิการในครั้งนี้
.
“แม้ว่าทุกหน่วยงานจะมีบทบาท หน้าที่ และจุดเน้นการดำเนินงานที่ต่างกัน แต่เชื่อว่าสิ่งหนึ่งที่เรามีเหมือนกัน คือ หัวใจแห่งความศรัทธาต่อการศึกษา เรียนรู้ เพื่อเป็นพื้นฐานในการสร้างความรู้ ทักษะอาชีพ และการดำรงชีวิตของประชาชนคนไทยทุกคน โดยเฉพาะคนพิการ ผู้ด้อยโอกาส และผู้ขาดโอกาสทางการศึกษา ให้ได้รับโอกาสทางการศึกษา พัฒนาทักษะอาชีพ และทักษะชีวิต เพื่อสร้างความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นได้ จึงเกิดเป็นภาพของความร่วมมือร่วมใจที่แสนงดงามในวันนี้ โดยมี กศน.เป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนงานในทุกพื้นที่ ทุกชุมชน และทุกหมู่บ้านทั่วประเทศ หลอมรวมกับ สพฐ. และ สช. ซึ่งมีสถานศึกษาสำหรับคนพิการอย่างถ้วนทั่วอยู่แล้ว ทั้งยังได้รับการเสริมแรงจากหน่วยงานที่มีเทคโนโลยี นวัตกรรม องค์ความรู้ ตลอดจนทรัพยากรที่มีความทันสมัย เหมาะแก่การส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดเวลาให้กับคนทุกช่วงวัย จึงทำให้เชื่อได้ว่า นี่จะเป็นมิติใหม่แห่งการพัฒนาการศึกษาเพื่อคนพิการ ที่มิเพียงจัดพิธีลงนามเท่านั้น แต่จะเกิดความสำเร็จของงานตามมาโดยลำดับ จากความร่วมมือร่วมใจในการทำงานที่เข้มแข็ง และความมุ่งมั่นตั้งใจของรัฐมนตรีคนนี้ ที่จะเฝ้าติดตามและรายงานความก้าวหน้าให้สื่อมวลชน และสาธารณชน ตลอดจนผู้มีส่วนได้ส่วนเสียได้รับรู้อย่างแน่นอน ทั้งนี้ เชื่อว่าทุกคนคงจะทราบกันดีถึงสไตล์การทำงานของตน ที่ให้ความสำคัญกับทุกนโยบายและทุกภารกิจของทุกหน่วยงานที่รับผิดชอบ เพราะเชื่อเสมอว่า การศึกษารอเวลาไม่ได้ และเมื่อเข้ามารับหน้าที่ ก็พร้อมที่จะทำทุกนาทีให้มีค่ากับประชาชนคนไทยในทุกช่วงวัยอย่างเต็มที่ที่สุด” รมช.ศึกษาธิการ กล่าว
.
โดยพิธีลงนามความร่วมมือ MOU การจัดการศึกษาสำหรับคนพิการ ในครั้งนี้ เกิดจากความร่วมใจของ 7 หน่วยงาน ได้แก่ สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ(กสทช.) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) กรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ (พก.) มูลนิธิพระมหาไถ่เพื่อพัฒนาคนพิการสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.)สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาเอกชน (สช.) และสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (สำนักงาน กศน.) เพื่อร่วมกันบูรณาการความร่วมมือในการส่งเสริม สนับสนุน การพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนพิการ ให้ได้รับโอกาสในการพัฒนาการเรียนรู้ ทักษะอาชีพ การมีงานทำ มีรายได้ เท่าทันเทคโนโลยี และยกระดับคุณภาพชีวิตอย่างรอบด้าน อันจะส่งผลต่อการอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุขและยั่งยืน

ในส่วนของโครงการที่เครือข่ายจะดำเนินงานร่วมกันในระยะเริ่มต้นนี้ ได้แก่ นายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล รองเลขาธิการ กสทช. เปิดเผยว่า กสทช.มีแผนที่จะพัฒนาโครงข่ายอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง ให้ครบทั้ง 19,000 หมู่บ้าน รองรับการขยายศูนย์อินเทอร์เน็ตโรงเรียน (Universal Service Obligation: US0 NET) กว่า 1,000 แห่งทั่วประเทศ สำหรับการเรียนรู้ผ่านระบบออนไลน์ของผู้เรียนพิการ และเป็นแหล่งเรียนรู้สำหรับประชาชน โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย รวมทั้งร่วมพัฒนาหลักสูตร นวัตกรรมการเรียนการสอน ด้วยสื่อเทคโนโลยีที่เหมาะสมกับประเภทความพิการ ตลอดจนการฝึกอบรมทักษะการใช้สื่อเพื่อช่วยในการสอน ของครู และสื่อเพื่อการเรียนรู้สำหรับนักเรียน ผู้ด้อยโอกาส และผู้พิการ ตามเป้าหมายกว่า 5 แสนคน

นางธนาภรณ์ พรมสุวรรณ อธิบดี พก. เปิดเผยว่า พก.มีหน้าที่ดูแลคนพิการในภาพรวมของประเทศ ซึ่งขณะนี้เตรียมที่จะสำรวจข้อมูลผู้พิการที่ตกหล่นและไม่ได้รับการศึกษาให้เป็นปัจจุบัน โดยจะร่วมมือกับครู กศน.ลงพื้นที่เยี่ยมบ้านกับอาสาสมัคร ของ พก.ในแต่ละจังหวัด เพื่อสำรวจข้อมูลให้ครบถ้วน ครอบคลุมมากที่สุด และนำมาจัดทำแผนพัฒนาศักยภาพเป็นรายบุคคล เพื่อพัฒนาการเรียนรู้ให้ตรงกับความต้องการต่อไป พร้อมจะเชิญครู กศน. ร่วมพัฒนาเพิ่มพูนทักษะใหม่ ๆ (Reskill) แก่คนพิการที่ยังไม่มีงานทำ หรือต้องการจะทำงานที่บ้าน อย่างไรก็ตาม ขอชื่นชมกระทรวงศึกษาธิการและบุคลากร ที่ให้ความร่วมมือและร่วมดำเนินงานเรื่องคนพิการกับทุกหน่วยงานเป็นอย่างดี

นางสาววันทนีย์ ธนชาติ ผู้แทน สวทช. เปิดเผยว่า สวทช.เน้นพัฒนาเทคโนโลยีสำหรับผู้พิการและผู้สูงอายุ ตลอดจนนวัตกรรมการเรียนการสอน ด้วยฐานคิด Education for All ในรูปแบบแพลตฟอร์มการเรียนการสอนทางไกลผ่านระบบออนไลน์ ทำให้เรียนได้ทุกที่ทุกเวลา และส่งการบ้านผ่านระบบได้ ทั้งยังมีการพัฒนาซอฟต์แวร์เพื่อการศึกษา สื่ออิเล็กทรอนิกส์ที่ทุกคนเข้าถึง และใช้ประโยชน์ได้ ตามมาตรฐาน EPUB 3 โดยยินดีที่จะให้การสนับสนุนซอฟแวร์และสื่อ เพื่อใช้สอนในโรงเรียนที่ขาดครูด้วย

บาทหลวงภัทรพงษ์ ศรีวรกุล ประธานมูลนิธิพระมหาไถ่เพื่อการพัฒนาคนพิการ เปิดเผยว่า ได้เตรียมแผนงานไว้แล้ว โดยจะเน้นการศึกษาทางไกลผ่านระบบออนไลน์ พร้อมจัดหลักสูตรอาชีพใหม่ ๆ ให้คนพิการได้เรียนรู้ และพัฒนาความร่วมมือกับหน่วยงาน ภาคีเครือข่าย ตลอดจนสถานศึกษาให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ท้ายสุด ขอแสดงความชื่นชมกระทรวงศึกษาธิการ ที่มีแนวคิดที่จะสร้างโอกาสและการเข้าถึงการศึกษาสำหรับคนพิการ ซึ่งถือเป็นการทำงานที่สร้างชีวิตที่มีคุณภาพแก่คนพิการอย่างแท้จริง

นายอำนาจ วิชยานุวัติเลขาธิการ กพฐ. เปิดเผยว่า สพฐ.มีศูนย์การศึกษาพิเศษ กว่า 77 แห่งทั่วประเทศ และมีโรงเรียนเฉพาะความพิการทุกประเภท อีกกว่า 40 แห่ง ซึ่งที่ผ่านมามีความร่วมมือในการจัดการศึกษา กับเครือข่ายและหน่วยงานต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง ซึ่งเชื่อมั่นว่าคนทุกคนมีศักยภาพ สามารถพัฒนาและต่อยอดได้ ทั้งในการเรียน การทำงาน และการอยู่ในสังคมอย่างมีความสุข ซึ่งความร่วมมือในวันนี้ ถือเป็นการหลอมรวมพลังที่มีคุณค่าเพื่อพัฒนาคนพิการอย่างรอบด้านต่อไป

นายอรรถพล ตรึกตรอง เลขาธิการ กช. เปิดเผยว่า ขณะนี้มีความก้าวหน้าในการจัดระเบียบข้อมูล ด้านการจัดการศึกษาเพื่อคนพิการของสถานศึกษา ทั้ง 20 แห่ง รวมทั้งผู้พิการเรียนรวมในโรงเรียนกว่า 800 แห่ง และมีครูสอน 1,975 คน โดยในอนาคต จะสำรวจความต้องการของโรงเรียนเอกชนนอกระบบ เพื่อสนับสนุนการใช้ทรัพยากร องค์ความรู้ และความเชี่ยวชาญ เพื่อพัฒนาผู้พิการร่วมกัน

นายดิศกุล เกษมสวัสดิ์ เลขาธิการ กศน. เปิดเผยว่า กศน.พยายามเข้าถึงผู้เรียนทุกกลุ่มเป้าหมายในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ โดยยินดีให้ความร่วมมือกับเครือข่ายการทำงานด้านการศึกษาคนพิการ ตามนโยบายด้าน Good partnership และจัดสรรบุคลากร ครู กศน.สนับสนุนการปฏิบัติในแต่ละพื้นที่ และในเร็ว ๆ นี้ เตรียมจะพัฒนาบุคลากรสำหรับดูแลคนพิการโดยตรง พร้อมทั้งจะเชื่อมโยงข้อมูล และทรัพยากรในการจัดการศึกษาแก่คนพิการร่วมกัน

จากนั้น รมช.ศึกษาธิการ ได้เยี่ยมชมนิทรรศการ สื่อการเรียนรู้ และผลงานการจัดการศึกษา ทักษะ และอาชีพสำหรับคนพิการ ของเครือข่ายความร่วมมืออย่างทั่วถึง อาทิ ระบบบริการล่ามทางไกลสำหรับการศึกษา นักศึกษาหูหนวก และคลังหนังสือสื่ออิเล็กทรอนิกส์ที่ทุกคนเข้าถึง และใช้ประโยชน์ได้ ของ สสวท., ผลงานและผลิตภัณฑ์ของผู้เรียนในมูลนิธิพระมหาไถ่เพื่อการพัฒนาคนพิการ, ศูนย์บริการคนพิการ พก.พม., ศูนย์บริการคนพิการ กรุงเทพมหานคร, อุปกรณ์ สิ่งอำนวยความสะดวก และระบบอินเทอร์เน็ต ในศูนย์ USO Net ของ กสทช., งานศิลปะและสิ่งประดิษฐ์ ช่างสิบหมู่ ศูนย์การศึกษานอกโรงเรียนกาญจนาภิเษก (วิทยาลัยในวัง), กลุ่มเป้าหมายพิเศษ กศน.จังหวัดขอนแก่น เป็นต้น
.
พร้อมทั้งร่วมรับฟังการเสวนา ในหัวข้อ “การสร้างแรงบันดาลใจ เพื่อสร้างพลังบวกสู่สังคมให้กับคนพิการ” ณ หอประชุมคุรุสภา โดยได้รับฟังเสียงสะท้อนจากวิทยากรผู้พิการในเวทีเสวนา ตอนหนึ่งว่า รู้สึกยินดีที่มีหน่วยงานมารวมตัวกัน เพื่อสนับสนุนการจัดการศึกษาสำหรับคนพิการ ซึ่งที่ผ่านมา “มักเป็นกลุ่มแรกที่ถูกลืม และเป็นกลุ่มสุดท้ายที่ได้รับการนึกถึง” โดยเมื่อมีการลงนามบันทึกความร่วมมือ ทั้งยังมีการปรับปรุงกฎหมาย มีนโยบายด้านการจัดการศึกษาที่ชัดเจน และมีความพร้อมทั้งในส่วนของครู สถานศึกษา และสภาพแวดล้อมต่าง ๆ แล้ว เชื่อว่าคนพิการก็หวังที่จะเห็นการทำงานในเชิงปฏิบัติจริง ๆ และเกิดผลสำเร็จอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในส่วนของผู้เรียนเอง ก็ขอฝากให้ปรับความคิดเชิงบวกต่อตัวเองมากขึ้น ควรคิดว่าทุกอย่างมีความเป็นไปได้ และเราสามารถทำได้ หรืออาจหาแนวปฏิบัติที่ดี ๆ เพื่อเป็นตัวอย่าง ที่จะช่วยสร้างแรงบันดาลใจไปสู่เป้าหมายที่ตั้งไว้ได้
.
โดย รมช.ศึกษาธิการ ได้กล่าวแสดงความชื่นชมวิทยากรที่มาร่วมแชร์แนวคิด และประสบการณ์ ในฐานะผู้พิการที่ประสบความสำเร็จด้านการศึกษา ระดับปริญญาเอก ทั้ง 3 ท่าน โดยยกให้เป็นโมเดล และแบบอย่างที่ควรทำตาม ทั้งในแง่ของความมุ่งมั่นพยายามศึกษาเล่าเรียน ทัศนคติในการดำเนินชีวิต ตลอดจนข้อเสนอแนะที่เป็นประโยชน์ต่อการจัดการศึกษาสำหรับคนพิการ ซึ่งรัฐมนตรีเองก็มีความตั้งใจ ที่จะผลักดันความร่วมมือไปสู่การปฏิบัติ ก่อเกิดผลสำเร็จตามเป้าหมาย อันจะสร้างประโยชน์สูงสุดต่อคนพิการ ในการเข้าถึงการศึกษา เป็นพื้นฐานในการเรียนรู้ตลอดชีวิต การมีอาชีพ มีงานทำ เท่าทันเทคโนโลยี สามารถดำรงชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุขและเต็มภาคภูมิ