กรมชลประทาน ขอให้ชาวนนท์มั่นใจ ทำนบดินชั่วคราว ริมเจ้าพระยาป้องกันตลิ่งได้

กรมชลประทาน


กรมชลประทาน ขอให้ชาวนนท์มั่นใจ ทำนบดินชั่วคราว ริมเจ้าพระยาป้องกันตลิ่งได้ อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่และขนาดกลางทั่วประเทศ สามารถรับน้ำได้อีก 38,354 ล้าน ลบ.ม.

  • อ่างเก็บน้ำรับน้ำได้อีก
  • จำนวน 38,354 ล้าน ลบ.ม.

วันที่ 31 สิงหาคม 2567 กรมชลประทาน รายงานว่า จากกรณีที่มีการนำเสนอข่าว “ชาวนนทบุรี ลุ้นหนัก เขื่อนริมเจ้าพระยาพัง 4 เดือน ไม่ซ่อม สร้างแค่เขื่อนดินชั่วคราว” นั้น

ทางกรมชลประทาน ขอชี้แจงในกรณีที่เกิดขึ้นว่า จากที่เกิดเหตุการณ์พนังคอนกรีตริมแม่น้ำเจ้าพระยาทรุดตัวบริเวณปากคลองบางกรวย ปัจจุบันกรมชลประทานได้แก้ไขปัญหาเร่งด่วนด้วยการก่อสร้างทำนบดินโครงสร้างเสาไม้ยูคา เชื่อมระหว่างประตูระบายน้ำคลองบางกรวย และถนนหมู่บ้าน เป็นระยะทาง 160 เมตร เสร็จเรียบร้อยแล้ว

สามารถใช้ป้องกันน้ำหลากในปี 2567 ได้ ขอให้ประชาชนมั่นใจว่าทำนบดินดังกล่าว มีความมั่นคงแข็งแรง ป้องกันน้ำได้ อีกทั้งยังสามารถเสริมระดับดินเพิ่มเติม กรณีระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้น จึงขอให้ประชาชนคลายกังวลในเรื่องของการป้องกันน้ำท่วมในพื้นที่

ส่วนการแก้ไขปัญหาอย่างถาวรปัจจุบันอยู่ระหว่างเร่งดำเนินการออกแบบเพื่อก่อสร้างในปี 2568 นี้

ทั้งนี้ กรมชลประทาน มิได้นิ่งนอนใจ พร้อมเดินหน้าช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่ ให้เหตุการณ์คลี่คลายกับสู่สภาวะปกติโดยเร็วที่สุด

  • เร่งบริหารจัดการน้ำฤดูฝน

ด้านนายชูชาติ รักจิตร อธิบดีกรมชลประทานกล่าวถึงสถานการณ์น้ำปัจจุบัน ว่าอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่และขนาดกลางทั่วประเทศ มีปริมาณน้ำรวมกันทั้งสิ้นประมาณ 37,983 ล้านลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) 50% ของความจุอ่างฯ รวมกัน สามารถรับน้ำได้อีก 38,354 ล้าน ลบ.ม.

เฉพาะลุ่มน้ำเจ้าพระยา 4 เขื่อนหลัก (เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์) มีปริมาณน้ำรวมกันทั้งสิ้นประมาณ 9,624 ล้าน ลบ.ม.(39% ของความจุอ่างฯ รวมกัน) สามารถรับน้ำได้อีก 15,247 ล้าน ลบ.ม.

จนถึงขณะนี้ มีการจัดสรรน้ำช่วงฤดูฝนปี 2566/67 ทั้งประเทศไปแล้วกว่า 6,631 ล้าน ลบ.ม.(43% จากแผนฯ) เฉพาะลุ่มเจ้าพระยามีการใช้น้ำไปแล้ว 2,478 ล้าน ลบ.ม.(50% จากแผนฯ) ภาพรวมสถานการณ์น้ำเป็นไปตามแผน

ทั้งนี้ กรมชลประทาน ได้กำชับโครงการชลประทานทั่วประเทศ ให้ปฏิบัติตาม 10 มาตรการรับมือฤดูฝนปี 2567 ที่กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) กำหนดอย่างเคร่งครัด พร้อมเฝ้าระวัง และติดตามสภาพอากาศจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด

นำข้อมูลมาวิเคราะห์วางแผนการบริหารจัดการน้ำ ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ และ อยู่ในเกณฑ์ที่กำหนด ควบคู่ไปกับการเก็บกัก รวมทั้งตรวจสอบอาคารชลประทานให้พร้อม ใช้งานได้อย่างเต็มศักยภาพ มีการกำหนดคน พื้นที่เสี่ยง กำหนดเครื่องจักรเครื่องมือ

และระบบสื่อสาร ประจำพื้นที่ต่างๆ เพื่อให้สามารถเข้าแก้ไขสถานการณ์ได้ทันที ที่สำคัญให้ประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนประชาชน ถึงสถานการณ์น้ำอย่างต่อเนื่อง เพื่อลดผลกระทบที่จะเกิดกับประชาชน

  • สรุปสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ วันที่ 31 ส.ค. 67

1.ปริมาณฝนสะสม 24 ชม. สูงสุด ได้แก่ ภาคเหนือ :จ.นครสวรรค์ (68 มม.) ภาคตะวันออก : จ.จันทบุรี (67 มม.) ภาคกลาง : จ.นครปฐม (60 มม.) ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ : จ.นครพนม (49 มม.) ภาคใต้ : จ.นครศรีธรรมราช (47 มม.) ภาคตะวันตก : จ.กาญจนบุรี (19 มม.)

สภาพอากาศวันนี้ : มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังอ่อนลง ในขณะที่ มีหย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณ ประเทศเวียดนามตอนบน ประเทศไทยมีฝนลดลง แต่ยังคงมีฝนตกหนักบางแห่ง ในภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนล่าง และภาคตะวันออก

  • คาดการณ์

ช่วงวันที่ 1 – 5 ก.ย. 67 ร่องมรสุมกำลังปานกลางจะเลื่อนลงมาพาดผ่านภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ของประเทศไทย เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงบริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ ภาคตะวันออก และอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่

ในภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลางรวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคตะวันออก

สถานการณ์อุทกภัย : วันที่ 30 ส.ค. 67 ในพื้นที่ 5 จังหวัด ได้แก่ จ.เชียงราย (อ.แม่จัน เทิง ขุนตาล เชียงของ พญาเม็งราย และเมืองฯ) จ.สุโขทัย (อ.เมืองฯ สวรรคโลก ศรีสำโรง ศรีนคร กงไกรลาศ และศรีสัชนาลัย) จ.พิษณุโลก (อ.บางระกำ และพรหมพิราม) จ.เพชรบูรณ์ (อ.หล่มสัก) และ จ.หนองคาย (อ.สังคม รัตนวาปี ศรีเชียงใหม่ ท่าบ่อ และเมืองฯ)

สถานการณ์น้ำอ่างเก็บน้ำในภาพรวม : ปริมาณน้ำรวม 61% ของความจุเก็บกัก (49,494 ล้าน ลบ.ม.) ปริมาณน้ำใช้การ 44% (25,313 ล้าน ลบ.ม.)

  • ประกาศที่เกี่ยวข้อง

1.ประกาศสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ฉบับที่ 12/2567 ลงวันที่ 28 ส.ค. 67 เฝ้าระวังผลกระทบจากระดับน้ำแม่น้ำโขงเพิ่มขึ้น ช่วงวันที่ 25-31 ส.ค. 67 ขอให้เฝ้าระวังระดับน้ำเพิ่มขึ้นและเตรียมรับมือจากสถานการณ์น้ำล้นตลิ่งและท่วมขังบริเวณริมแม่น้ำโขง บริเวณ จ.เลย หนองคาย บึงกาฬ นครพนม มุกดาหาร อำนาจเจริญ
และอุบลราชธานี

    2. สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ แจ้งเตือนเฝ้าระวัง

    น้ำทะเลหนุนสูงช่วงวันที่ 30 ส.ค. – 5 ก.ย. 67 เนื่องจากอิทธิพลของน้ำทะเลหนุนสูง และคาดว่าจะมีฝนตกหนักในบางพื้นที่ทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำเพิ่มสูงขึ้นอาจส่งผลกระทบต่อพื้นที่ลุ่มต่ำ

    ริมแม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำแม่กลอง แม่น้ำท่าจีน และแม่น้ำบางปะกง เสี่ยงน้ำท่วมบริเวณชุมชนนอกแนวคันกั้นน้ำ และแนวเขื่อนชั่วคราวบริเวณที่ไม่มีแนวป้องกันน้ำถาวร (แนวฟันหลอ) ในพื้นที่จังหวัดสมุทรสงคราม สมุทรสาคร นครปฐม นนทบุรี กรุงเทพมหานคร และสมุทรปราการ

    ข่าวที่เกี่ยวข้อง : “สมศักดิ์” พร้อม สส.เพื่อไทย ลุยตรวจระบายน้ำสุโขทัย เชื่อมือกรมชลประทาน

    : เว็บกรมชลประทาน