

ททท. งัดแผนสื่อสารตลาดปลุก“ไทย-ต่างชาติ” ดันรายได้เข้าเป้า 3.4 ล้านล้านบาท ปลาย ก.ค.67 “ในประเทศ” เปิด “สุขทันที…55เมืองน่าเที่ยว” เจาะคนรุ่นใหม่ “ต่างประเทศ” จับขั้วสื่อใหญ่ทุกค่ายโหมโฆษณาไทย ปี’68 รุกเทรนด์ใหม่ “Fandom Marketing”ชูนักกีฬาดัง ศิลปินอินเตอร์ บูมแพกเกจทัวร์ ตั๋ว ขยายแฟนดอมทั่วโลก

นายนิธี สีแพร รองผู้ว่าการด้านสื่อสารการตลาด การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า เร่งปรับโฉมแผนสื่อสารตลาดเพื่อสร้างรายได้เข้าประเทศให้เป็นไปตามเป้าหมายปี 2567 กว่า 3.4 ล้านล้านบาท และปี 2568 จะเติบโตเพิ่มอีกอย่างน้อย 7.5 % ช่วงกรกฎาคม-กันยายนนี้จะโหมโฆษณาประชาสัมพันธ์ควบคู่กันทั้งท่องเที่ยวหน้าฝนและเมืองไทยเที่ยวได้ตลอดทั้งปี
ตลาดในประเทศจะเพิ่มแคมเปญ 55 เมืองน่าเที่ยว/เมืองรอง เตรียมเปิดตัวปลายเดือนกรกฎาคม 2567 ด้วยแคมเปญ “สุขทันทีที่เที่ยว…เมืองน่าเที่ยว” เปลี่ยนคอนเซ็ปต์และมุมคิดจากเมืองรองให้สอดคล้องกับผลวิจัยโดยใช้ชื่อใหม่ “เมืองน่าเที่ยว” ซึ่งจะได้รับความสนใจเพิ่มมากขึ้น
ตั้งเป้าดันนำเสนอเมืองน่าเที่ยวด้วย 4 จุดขาย ประกอบด้วย 1.แหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจ แหล่ง Unseen New Series อีกมากมาย 2.มีความพร้อมที่พัก สิ่งอำนวยสะดวกมากมายทั้ง แหล่งเช็คอิน โรงแรม ร้านอาหาร คาเฟ่เก๋ ๆ 3.การเข้าถึงซึ่งมีเที่ยวบินตรงไปลงตามจังหวัดต่าง ๆ เพิ่มขึ้น และไม่ไกลจากเมืองหลักสามารถเดินทางเชื่อมต่อถึงได้ง่าย
4.การทำโปรโมชั่นขานรับแคมเปญสื่อสารตลาด ททท.ทำร่วมกับพันธมิตรอย่าง บขส. รถไฟ สายการบินต่าง ๆ เชิญชวนนักท่องเที่ยวออกเดินทางทั้งไทยเที่ยวไทยและต่างประเทศเที่ยวเมืองไทย
“ตลาดในประเทศ” จะดึง “น้องแอลลี่” มาเป็นพรีเซนเตอร์ร่วมกับวง “PROXIE” ศิลปินหนุ่มหน้าตาสดใน 6 คน มาแสดงพลังของคนรุ่นใหม่ก็ให้ความสนใจ “เมืองน่าเที่ยว” พร้อมกับทำกิจกรรม 5 Must Do
ได้แก่ Must Taste ลองชิมอาหาร Must Buy ช้อปปิ้งสินค้าพื้นเมือง Must Seek สัมผัสวัฒนธรรมไทย Must See ชมโชว์ไทย การค้นหาแหล่งอันซีน ททท.จะนำเสนอผ่านช่องทางสื่อ TVC กิจกรรมออนกราวนด์ต่าง ๆ จะทำให้คึกคักทั่วไทย

“ตลาดต่างประเทศ” เดินหน้าใช้แคมเปญ Your Story Never End มีเรื่องราวมากมายส่งมอบประสบการณ์ให้นักท่องเที่ยวผ่าน 1.สื่อออฟไลน์ 2.สื่อโกลบอล เตรียมทำคอนเทนท์ร่วมกับนิตยสาร Forbs สื่ออนไลน์ การเผยแพร่โฆษณาผ่าน CNBC รอยเตอร์เจาะลึกเรื่องเฟสติวัล/เทศกาล อย่างผีตาโขน ชุมชนน่าเที่ยวเมืองเชียงคาน
3.สื่อ Out of home เช่นป้ายบิลบอร์ด ในสิงคโปร์ มาเลเซีย ไทม์สแควร์ อเมริกา เน้นสร้างการรับรู้เพื่อให้คนตื่นตัวไปหาข้อมูลททท.ก็จะทำร่วมกับบริษัทขายการท่องเที่ยวออนไลน์ (OTA) ต่อด้วยการจัด Thailand Festival ทั่วโลก ตามประเทศต่าง ๆ เริ่มจากประเทศที่ได้วีซ่าฟรี ตลาดอินเดียเน้นกลุ่มถ่ายทำภาพยนตร์ต้นตำรับบอลลี่วู้ด ไต้หวันจะมี Fan Meet เพื่อให้ลองเดินทางมาทำ 5 Must Do in Thailand ทำกิจกรรมได้อีกมากมาย
พร้อมกับเตรียมต่อยอดโครงการ Amazing Mauythai เวทีราชดำเนิน นำผู้ชนะมาแข่งขันที่เวทีแห่งนี้ในโอกาสครบรอบวันเกิดสนามมวย ตอนนี้มีจัดแข่งขันชกมวยตามประเทศต่างๆ ที่มีชุมชนมวยไทยขนาดใหญ่อยู่ในพื้นที่ ได้แก่ คาร์ดีส สเปน เมลเบิร์น ออสเตรเลีย และกรุงปร๊าก สาธารณรัฐเช็ค
นายนิธี กล่าวว่าได้วางกลยุทธ์ขับเคลื่อนการสื่อสารตลาดปีงบประมาณ 2568 จะนำเสนอเครื่องมือใหม่จะเสริมความปังมากสุดนำเทรนด์ “Fandom Marketing” เข้ามาใช้รองรับพฤติกรรมนักท่องเที่ยวทั่วโลก ตอนนี้เปลี่ยนไป ไม่ค่อยมีลอยัลตี้กับแบรนด์มากนัก ยกเว้นกลุ่มใหม่แฟนดอมที่ยังเหนียวแน่นกับศิลปินในดวงใจ
การสร้างเทรนด์ใหม่จะทำให้สอดคล้องกับปี Thailand Grand Tourism Year 2025 ทำเพิ่มโครงการ Grand Invitation 2 ตลาดหลัก คือ ตลาดแรก นักกีฬาชื่อดังระดับโลก วงการพรีเมียร์ลีก ฟุตบอล เซเลแอร์ วอลเลย์บอลทีมไทยซึ่งไปเล่นตามสโมสรต่างประเทศสร้างชื่อเสียงมีแฟนติดตามมากมาย
ตลาดที่ 2 ศิลปินดนตรีนานาชาติ โดยมีพันธมิตร วอนเนอร์ มิวสิค และอีกหลายค่ายที่มีแฟนดอมผูกพันและสร้างการเข้าถึงได้มากที่สุดอย่างรวดเร็ว
ททท.จะใช้อีเวนต์ดนตรีให้ศิลปินได้นำเสนอคอนเทนต์เส้นทางการท่องเที่ยว เพื่อให้เกิดการท่องเที่ยวซ้ำของบรรดาแฟนดอมทั้งหลาย ส่วนนักกีฬาดังก็มาทำคอนเทนท์แล้วนำไปเผยแพร่ในประเทศต้นทางของตนเอง หากแฟนดอมสนใจก็ซื้อบัตรมาเที่ยวได้โดยจะจัดเตรียมสิทธิพิเศษไว้ให้ในแต่ละอีเวนต์
ส่วนพันธกิจสื่อสารตลาดของททท.ปลายปี 2567 ต่อเนื่องปีงบประมาณ 2568 จะเน้นลงลึกเรื่อง “ความยั่งยืน-Green site Story” จะต้องขับเคลื่อน 3 เรื่อง คือ เรื่องที่ 1 ประชาสัมพันธ์ให้ทั่วโลกรู้ถึงความพร้อมของเมืองไทยมี 7 Green ผนวกกับโครงการ CF Hotel, STGs :Sustainable Tourism Goals รางวัลกินรี/ประกวดอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว

ซึ่งจะทำให้นักท่องเที่ยวประทับใจเรื่องความยั่งยืนแล้วเลือกไทยเป็นจุดหมายปลายทางท่องเที่ยว เรื่องที่ 2 ปรับโลโก้ Amazing Thailand ให้เห็นถึงการเน้นความใส่ใจสิ่งแวดล้อมมากขึ้นโดยใส่ความเขียวตอกย้ำภาพลักษณ์ 3 องค์ประกอบสำคัญ 3P :People-Planet-Profit สร้างความใกล้ชิดมากขึ้น แล้วปี 2568 จะต้องยกระดับภาพลักษณ์ความยั่งยืนให้ติดอันดับ 1 ใน 5 โดยต้องดูคู่เทียบรอบด้านด้วย
วิธีสร้างภาพลักษณ์ความยั่งยืนนำร่องด้วย One for Nature Project การท่องเที่ยวกับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมเป็นเรื่องเดียวกัน ขั้นตอนต่อไปจะขยายเข้าไป Amazing Thailand ตอนนี้ยังอยู่ในช่วงทำเป็นโครงการขนาดเล็กแล้วรณรงค์ด้วยโมบาย ยูนิต เดินสายไปตามจังหวัดต่างๆ กรุงเทพฯ อยุธยา กระบี่ เช่น ปลูกหญ้าทะเลเกาะสมุย สุราษฎร์ธานี และอื่น ๆ
เรื่องโดย #เพ็ญรุ่งใยสามเสน #gurutourza
ข่าวที่เกี่ยวข้อง : สภาท่องเที่ยว ชงรัฐทำ 5 เรื่องปี’67-68 เข็นรายได้ 3.4 ล้านล้าน