

ผู้นำ สภาท่องเที่ยว ชี้เป้า’67 ต่อยอดแผนตลาดใหม่ปี’68 ระดมความเห็น 150 สมาคม ชงรัฐบาล “ตั้งไทยแลนด์ทีม -ใช้สนามบินกระจายอินบาวนด์ 55 เมืองน่าเที่ยว-ของบเปิดบัสเที่ยวไทย”1.5หมื่นคันเพิ่ม30 ล้านคน-ครั้ง ขอร่วมวง “ดิจิทัลวอลเลท” แนะทำด่วน “1กระทรวง 1 KPI เพื่อท่องเที่ยว” ทำรายได้เข้าเป้า 3-3.4 ล้านล้าน

นายชำนาญ ศรีสวัสดิ์ ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สอท.) เปิดเผยว่า ล่าสุดสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยทำผลสำรวจความคิดเห็นจากทั่วประเทศกว่า 150 สมาคม เพื่อจะทำให้ท่องเที่ยวมีรายได้เป็นไปตามเป้าปี 2567 ตามตัวเลขฐาน 3 ล้านล้านบาท หลังเสร็จสิ้นการประชุมแผนปฏิบัติตลาดท่องเที่ยว TATAP 2025 ที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา รัฐบาล จะต้องนำมาใช้จริงตามปีงบประมาณ 2568 เริ่ม 1 ตุลาคม 2567 เป็นต้นไป สิ่งที่เอกชนเห็นตรงกันควรจะเพิ่มพลังขับเคลื่อนใหม่ระหว่างกรกฎาคม-ธันวาคม 2567 อีก 3 ส่วน คือ ส่วนที่ 1 เพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศอีก 4 ล้านคน หรือเพิ่มนักท่องเที่ยวในประเทศอีก 30 ล้านคน-ครั้ง ส่วนที่ 2 เพิ่มค่าใช้จ่ายจากนักท่องเที่ยวต่อคนต่อทริป ส่วนที่ 3 เจาะลึกกลุ่มตลาดเป้าหมายที่มีศักยภาพเร่งด่วน เช่น นักท่องเที่ยวตะวันออกกลาง และอื่น ๆ
ในมุมมองของเอกชนคาดสามารถทำให้เป็นไปได้ สมาชิกสมาคม สมาพันธุ์ สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยได้เสนอแนะวิธีทำไว้ 5 ประเด็น ประกอบด้วย
สอท. เสนอแนะวิธีทำ 5 ประเด็น
- ประเด็นที่ 1 ตั้ง “ไทยแลนด์ ทีม” เพื่อเพิ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติช่วงครึ่งปีหลัง 2567 ปรับขึ้นจากฐานเดิมอีกประมาณ 4 ล้านคน ด้วยการนำการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ทั่วโลก 29 สำนักงาน จับมือกับบริษัทตัวแทนนำเที่ยวซึ่งเป็นท็อปของพื้นที่ละ 10 บริษัท ไปทำการขายแบบเคาะประตูตามตลาดต่าง ๆ โดยรัฐบาลใส่เงินเป็นค่าเดินทางให้ไปทำโร้ดโชว์และการขาย พร้อมกับทำเที่ยวบินเช่าเหมาลำ (Charter flight) กลุ่มใหม่ ๆ เข้ามาเที่ยวเมืองไทยเพิ่มขึ้น เพราะปี 2566 ต่อเนื่องช่วงครึ่งปีแรก 2567 ยังเน้นขายผ่านออนไลน์ จึงยังไม่ได้ใช้บริษัทนำเที่ยวอย่างเต็มศักยภาพ
- ประเด็นที่ 2 ใช้ท่าอากาศยานหลักจับมือกับรถบัสแล้วใช้บริษัทท่องเที่ยวในประเทศเข้ามร่วมเปิดศูนย์ที่สนามบินเพื่อกระจายนักท่องเที่ยวต่างชาติไปตามภูมิภาคโดยเฉพาะ 55 เมืองน่าเที่ยว/เมืองรอง ตอบโจทย์ IGNITE Thailand รัฐบาล

- ประเด็นที่ 3 ทำโครงการ “รถบัสเที่ยวทั่วไทย” เสนอให้รัฐบาลนำงบประมาณกลางปีเข้ามาสนับสนุนกลุ่มธุรกิจรถบัสประมาณ 5,000 คัน/เดือน เป้าหมายเพื่อกระตุ้นช่วงครึ่งปีหลังนี้เพิ่มยอดตลาดเที่ยวในประเทศเพิ่มจากฐานปกติอีก 30 ล้านคน-ครั้ง โดยใช้บัสจัดนำเที่ยวรวมประมาณ 15,000-20,000 คัน ทำต่อเนื่องไตรมาส 3-4 ปี 2567 ก็กระจายรายได้สู่จังหวัดเมืองน่าเที่ยวได้จริง
- ประเด็นที่ 4 เพิ่มรายได้จากนักท่องเที่ยวคุณภาพใช้จ่ายเงินสูงกว่าคนทั่วไป หันมาทำตลาดเชิงรุกเร่งด่วนพุ่งเป้าเจาะกลุ่มตลาดแถบประเทศอาหรับ ฝึกมัคคุเทศก์ภาษาอาหรับ ฝึกผู้อำนวยความสะดวก (falicitrator) เป็นผู้ทำหน้าที่แนะนำนักท่องเที่ยวให้ไปใช้บริการดูแลรักษาสุขภาพทั้ง เมดิคัล เวลเนส ตามโรงพยาบาลต่าง ๆ ในไทย แล้วก็สร้างอีโค ซิสเต็มจูงใจให้เกิดการเดินทางอย่างเต็มที่ เชิญนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เข้ามาร่วมวงด้วย
- ประเด็นที่ 5 ขอให้รัฐบาลเปิดให้คนไทยได้ใช้งบกระตุ้นจาก ดิจิทัล วอลเลท สักประมาณ 20 % เพื่อสนับสนุนคนเที่ยวไทยทำให้รายได้เป็นไปตามเป้าหมายปี 2567
นายชำนาญกล่าวว่า ขณะนี้รัฐบาลภายใต้การนำของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ประกาศนโยบายท่องเที่ยวไว้ใน IGNITE Thailand ไว้ดีแล้ว เพียงแต่จะต้องเร่งลงมือปฏิบัติอย่างเร่งด่วนและจริงจังเพิ่มชัดอีก 3 เรื่อง ได้แก่
เรื่องที่ 1 นายกรัฐมนตรีเติมงบประมาณกลางปีกระจายลงสู่พื้นที่เมืองน่าเที่ยว เพราะผู้ว่าราชการทุกจังหวัดพร้อมจะพัฒนาให้เกิดผลสำเร็จขึ้นโดยเร็วอยู่แล้ว ประกาศตั้งเกณฑ์ประเมินผล “1 กระทรวง 1 KPI เพื่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยว” ในการจัดสรรงบประมาณที่มาจากการท่องเที่ยว 20% ของจีดีพี แบ่งปันไปตามจังหวัดต่าง ๆ หากทุกภาคส่วนทำตามสูตรนี้แล้วรายงานตรงไปยังนายกรัฐมนตรีจะเป็นอีกช่องทาง “แก้จน” ให้คนในประเทศได้ด้วย
เรื่องที่ 2 ทั่วโลกอยากได้ยินประเทศไทยขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศ 3 อย่าง ได้แก่ อย่างที่ 1 การท่องเที่ยวเพื่อคนทั้งมวลหรือ Tourism for All ต้องมาร่วมมือกันอย่างจริงจัง
อย่างที่ 2 การท่องเที่ยวที่ยั่งยืน ถึงเวลาต้องวางระบบมาตรฐานเดินหน้าจริงจัง อย่างที่ 3 ผลักดันยกระดับประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพองค์กร Welness Tourism ชูจุดขายไทยเป็น “เมืองเกษียนโลก”
ขานรับเป้าหมายหลักทางการท่องเที่ยวของประเทศซึ่งต้องการเป็นทั้ง Tourism Hub-Worldclass Tourism โดยเน้น 5 สิ่ง ได้แก่ เน้นดูแลสิ่งแวดล้อม เน้นชุมชน เน้นกระจายรายได้ทุกภาคส่วนได้ประโยชน์ร่วมกัน เน้นพลังงานสะอาด และเน้นใช้ดิจิทัล มาใช้ตอบโจทย์ดังกล่าว
นายชำนาญกล่าวว่าขณะนี้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สรุปแผนตลาดท่องเที่ยวปี 2568 :TATAP 2025 โดยตั้งเป้าหมายใหม่ 1.ยกระดับรายได้การท่องเที่ยวไทยติด 1 ใน 14 ของโลก
คาดจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติ 40 ล้านคน และคนไทยเที่ยวในประเทศ 205 ล้านคน-ครั้ง ซึ่งเพิ่มจากเป้าหมายปี 2567 ตั้งเป้ารายได้ไว้ 3 ล้านล้านบาท ดังนั้นปี 2568 จะทำรายได้เข้าเป้า 3.4 ล้านล้านบาท

ส่วน “รัฐบาล” เอกชนเสนอแนะให้ลงมือทำทันที 3 เรื่องใหญ่ ได้แก่ เรื่องที่ 1 ประกาศท่องเที่ยวเป็นวาระแห่งชาติ เรื่องที่ 2 ต้องลงมือทำแทนการประกาศแต่เพียงแค่นโยบาย 55 เมืองน่าเที่ยว/เมืองรอง เพราะตอนนี้ไทยยังเติบโตไม่เต็มประสิทธิภาพ เรื่องที่ 3 การพัฒนาแผนตลาดระยะสั้น-กลาง-ยาว ทำไปพร้อมกัน ควบคู่กับซ่อมสร้างพื้นที่ ด้วยวิธีพัฒนาคน ผลักดันเทรนด์ให้ทันกระแสโลก เริ่มตั้งแต่ครึ่งปีหลัง 2567 เป็นต้นไป เพื่อให้เกิดรายได้จริงเข้าประเทศในปี 2568 ต่อเนื่องได้จริง
เรื่องโดย #เพ็ญรุ่งใยสามเสน #gurutourza
สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สอท.)
ข่าวที่เกี่ยวข้อง : เปิดใจประธานสอท. “ความคาดหวัง” และ “งานเร่งด่วน” สำหรับรัฐบาลใหม่