นายกฯ หารือ นายจอห์น ลี คา-ชิว ผู้บริหารสูงสุดเขตบริหารพิเศษ ฮ่องกง มุ่งมั่น กระชับความร่วมมือ การค้า การลงทุน และการท่องเที่ยว ระหว่างไทย- ฮ่องกง
วันนี้ (29 พฤษภาคม 2567) เวลา 11.45 น. (เวลาท้องถิ่นฮ่องกง) ณ ห้อง Drawing สำนักงานผู้บริหารสูงสุดเขตบริหารพิเศษฮ่องกง เขตบริหารพิเศษฮ่องกง สาธารณรัฐประชาชนจีน นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี พบหารือกับนายจอห์น ลี คา-ชิว (The Honorable John Lee Ka-chiu) ผู้บริหารสูงสุดเขตบริหารพิเศษฮ่องกง
นายกรัฐมนตรีและผู้บริหารสูงสุดเขตบริหารพิเศษฮ่องกง ต่างยินดีที่ได้พบกันอีกครั้งหลังจากที่ทั้งสองฝ่ายได้พบหารือทวิภาคีกันเมื่อครั้งนายกรัฐมนตรีเดินทางเยือนเขตบริหารพิเศษฮ่องกงเมื่อเดือนตุลาคม ปี 2566
ไทย และฮ่องกงมีความร่วมมือ ใกล้ชิดทางเศรษฐกิจ ซึ่งมูลค้าทางการค้าระหว่างกัน มีตัวเลขที่สูงขึ้น พร้อมพูดคุย เพื่อส่งเสริมการค้า และการลงทุนให้เพิ่มขึ้น โดยฝ่ายฮ่องกงชื่นชมนายกรัฐมนตรีที่มีวิสัยทัศน์ที่เอื้อประโยชน์ต่อการลงทุน และ นายกรัฐมนตรีชื่นชมศักยภาพของฮ่องกง ที่มีความพร้อมด้านโครงสร้างพื้นฐานซึ่งดึงดูดการลงทุน รวมถึงมีความพร้อมในการจัดการประชุมด้วย
สำหรับการท่องเที่ยว ทั้งสองฝ่ายพร้อมแลกเปลี่ยนนักท่องเที่ยว โดยไทยขอบคุณที่ฝ่ายฮ่องกงยินดีให้ไทยมาจัดงานสงกรานต์ที่ฮ่องกง ทำให้นักท่องเที่ยวเดินทางไปมาหาสู่กันเพิ่มขึ้น ทั้งสองฝ่ายพร้อมทำงานร่วมกันต่อไป เพื่อส่งเสริมความร่วมมือทางการค้าและการลงทุนให้ใกล้ชิดมากยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ นายกฯ ให้สัมภาษณ์ ภายหลังเข้าร่วมงาน UBS Asian Investment Conference (AIC) 2024 มุ่งเชิญชวนนักลงทุน เสนอความพร้อม ศักยภาพประเทศไทยต่อการลงทุน ย้ำวิสัยทัศน์ IGNITE Thailand
หารือ 20 กองทุนชวนลงทุนในไทย
นายกฯกล่าวว่า ได้พบนักลงทุน (Chief Investment Officer Meeting: CIO Meeting) ประมาณ 20 กองทุน พูดคุยหารือเรื่องการเข้ามาลงทุนในประเทศไทย แนวทางการทำงานของนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่เข้ามาดำรงตำแหน่ง 10 เดือนได้เดินหน้าทำงานอะไรไปแล้วบ้าง และหน้าที่หลักต่อไปก็คือการดึงดูดนักลงทุนจากต่างประเทศให้มาประเทศไทย ซึ่งได้รับความสนใจที่ดีพอสมควร โดยสิ่งที่ต่อเนื่องจากการจัดงานวันนี้ คือสถาบันการเงิน UBS จะจัดนักลงทุนเพื่อไปพูดคุยที่ประเทศไทยเพื่อขยายความร่วมมืออย่างต่อเนื่อง
นายกฯกล่าวว่าการพบหารือกับ นายจอห์น ลี คา-ชิว (The Honorable John Lee Ka-chiu) ผู้บริหารสูงสุดเขตบริหารพิเศษฮ่องกง ได้หารือเกี่ยวกับการแลกเปลี่ยนนักท่องเที่ยว ได้มีการขอบคุณที่ประเทศไทยมาจัดงานสงกรานต์ที่ฮ่องกง และนักท่องเที่ยวไทยได้รับการดูแลที่ดี ฮ่องกงเอง trade volume สูงขึ้นประมาณ 7% มีความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างทั้งสองฝ่ายก็ถือเป็นเรื่องที่ดี
ข่าวที่เกี่ยวข้อง : ไทย-ฮ่องกงต่อยอดความร่วมมือเศรษฐกิจเชื่อมโยงยุทธศาสตร์ EEC กับ GBA
ประเทศไทยมีสถานกงสุลใหญ่ในฮ่องกง ซึ่งคือสถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองฮ่องกง โดยเป็นส่วนหนึ่งของชุดคณะผู้แทนทางทูตของประเทศในต่างประเทศ และกงสุลคนแรกประจำฮ่องกงได้รับการแต่งตั้งใน พ.ศ. 2411
สถานกงสุลใหญ่ดังกล่าวตั้งอยู่ ณ อาคารเลขที่ 8 คอตตอนทรีไดร์ฟ เซนทรัล เกาะฮ่องกง ทั้งนี้ ฮ่องกงมีสิทธิในการปกครองตนเองอย่างเต็มที่ของการดำเนินความสัมพันธ์ทางการค้าต่างประเทศ ตลอดจนความสัมพันธ์ในสาขาต่าง ๆ ที่เหมาะสม
ฮ่องกงมีตัวแทน โดยสำนักงานเศรษฐกิจ และการค้าฮ่องกงประจำประเทศสิงคโปร์ในประเทศสมาชิกสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมทั้งประเทศไทย สำนักงานดังกล่าว ได้รับสิทธิพิเศษ และความคุ้มกันบางประการจากรัฐบาลเจ้าภาพที่เกี่ยวข้องเพื่ออำนวยความสะดวกให้สำนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยไม่มีการแทรกแซง
โดยทั่วไปแล้ว สิทธิพิเศษและความคุ้มกันที่สำนักงานได้รับส่วนใหญ่ รวมถึงการไม่สามารถล่วงล้ำสถานที่ได้, การติดต่อทางจดหมาย, บันทึกสำคัญ และเอกสารอย่างเป็นทางการ ตลอดจนการยกเว้นสถานที่และตัวแทนจากการเสียภาษี หลังจากการลงนามความตกลงการค้าเสรี ระหว่างฮ่องกงและสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในเดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 2017 รัฐบาลฮ่องกงประกาศว่าจะจัดตั้งสำนักงานเศรษฐกิจและการค้าในประเทศไทยเพื่ออำนวยความสะดวกในการทำงานร่วมกันระหว่างทั้งสองฝ่าย
ฮ่องกงเป็นตลาดส่งออกที่ใหญ่เป็นอันดับห้าของไทยใน พ.ศ. 2557 ในขณะที่ไทย เป็นตลาดส่งออกที่ใหญ่เป็นอันดับที่ 16 ของฮ่องกง ซึ่งฮ่องกงได้ครอบครอง ตลาดส่งออกของไทย 5 เปอร์เซ็นต์ ในขณะที่ไทยได้มีส่วน 0.8 เปอร์เซ็นต์จากข้อมูลของฮ่องกง
คนไทยประมาณ 30,000 คนอาศัยอยู่ในฮ่องกง ในจำนวนนั้น หลายคนทำงานเป็นแม่บ้าน ส่วนประเทศไทย เป็นสถานที่พักผ่อนยอดนิยมสำหรับชาวฮ่องกง นอกจากนี้ สภาธุรกิจไทย–ฮ่องกง ได้มีเบอร์นาร์ด ชาญวุฒิ ชาน เป็นประธาน ซึ่งเป็นสภาธุรกิจชั้นนำของไทยในฮ่องกง