

ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ดาวโจนส์ปิดตลาด วันที่ 13 พ.ค.67 ลดลง 81.33 จุด หลังเฟด สาขานิวยอร์ก เปิดเผยผลสำรวจว่า ผู้บริโภคของสหรัฐฯ ปรับเพิ่มคาดการณ์เงินเฟ้อ ทั้งในระยะใกล้-ระยะยาว ส่งผลทำให้ ดาวโจนส์ปิดตลาด ในแดนลบ
- เผยนักลงทุน จับตาการเปิดเผย ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) พร้อมดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI)
- พร้อมจับตา รายงานผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน ในช่วงสัปดาห์นี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปิดตลาด วันที่ 13 พ.ค.67 อยู่ที่ 39,431.51 จุด ลดลง 81.33 จุดหรือ -0.21% ขณะที่ ดัชนีเอสแอนด์พี 500 เคลื่อนไหวที่ 5,221.42 จุด ลดลง 1.26 จุด หรือ -0.02% ด้านดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส อยู่ที่ 16,388.24 จุด เพิ่มขึ้น 47.37 จุด หรือ +0.29%
ทั้งนี้ เฟดสาขานิวยอร์ก เผยผลสำรวจ โดยระบุว่า ตัวเลขคาดการณ์เงินเฟ้อใน เดือน เม.ย.ของผู้บริโภคสหรัฐฯ ในระยะเวลา 1 ปีข้างหน้า จะอยู่ที่ระดับ 3.3%
ซึ่งเป็นระดับสูงสุด นับตั้งแต่เดือน พ.ย.66 และเพิ่มขึ้นจากระดับ 3.0% ที่คาดการณ์ในเดือนมี.ค.67
ด้านการคาดการณ์เงินเฟ้อ ของผู้บริโภคในระยะเวลา 5 ปี เพิ่มขึ้น 0.2% สู่ระดับ 2.8% ส่วนการคาดการณ์เงินเฟ้อในระยะเวลา 3 ปี ลดลง 0.1% สู่ระดับ 2.8%
สำหรับการเปิดเผยข้อมูลดังกล่าว มีขึ้นหลังจากมหาวิทยาลัยมิชิแกน เปิดเผยผลสำรวจ เมื่อวันที่ 10 พ.ค.ที่ผ่านมาโดยระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐฯ ลดลง แตะระดับต่ำสุดในรอบ 6 เดือน ในเดือน พ.ค.
เนื่องจากครัวเรือนชาวอเมริกัน มีความกังวลเกี่ยวกับค่าครองชีพ และผลสำรวจของมหาวิทยาลัยมิชิแกน ยังระบุอีกว่าผู้บริโภคได้ปรับเพิ่มคาดการณ์เงินเฟ้อ ทั้งในช่วง 1 ปีข้างหน้า และในช่วง 5 ปีข้างหน้า
ทั้งนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ในวันนี้ (14 พ.ค.) และจะเปิดเผย ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ในวันพุธที่ 15 พ.ค.
ด้านแอนโทนี ซากลิมบีน หัวหน้านักกลยุทธ์การตลาดจากบริษัท Ameriprise กล่าวว่า ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่ถดถอยลง และการที่ผู้บริโภค ปรับเพิ่มคาดการณ์เงินเฟ้อ มีผลทำให้นักลงทุน ระมัดระวังการซื้อขาย ก่อนที่สหรัฐฯ จะเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อ ในสัปดาห์นี้
ขณะที่ นักวิเคราะห์ ในโพลสำรวจ ของสำนักข่าวรอยเตอร์ คาดการณ์ว่า ดัชนี CPI ทั่วไปซึ่งรวมหมวดอาหาร และพลังงาน จะเพิ่มขึ้น 3.4% ในเดือน เม.ย. เมื่อเทียบรายปี
หลังจากที่เพิ่มขึ้น 3.5% ในเดือน มี.ค. และเมื่อเทียบเป็นรายเดือน คาดว่าดัชนี CPI ทั่วไปจะปรับตัวขึ้น 0.4% ในเดือน เม.ย. หลังจากที่เพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือน มี.ค.เช่นกัน
ส่วนดัชนี CPI พื้นฐาน (Core CPI) ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหาร และพลังงาน คาดจะปรับตัวขึ้น 3.6% ในเดือน เม.ย. เมื่อเทียบรายปี หลังจากที่เพิ่มขึ้น 3.8% ในเดือน มี.ค. และเมื่อเทียบเป็นรายเดือน คาดว่าดัชนี CPI พื้นฐานจะปรับตัวขึ้น 0.3% ในเดือน เม.ย. หลังจากที่เพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือน มี.ค.
สำหรับ ในส่วนหุ้น 9 ใน 11 กลุ่ม ที่คำนวณในดัชนี S&P500 ปิดในแดนลบ นำโดยดัชนีหุ้นกลุ่มอุตสาหกรรม และกลุ่มการเงิน ปรับตัวลง 0.45% และ 0.41% ตามลำดับ
ในส่วนดัชนีหุ้น กลุ่มเทคโนโลยี ดีดตัวขึ้น 0.48% และดัชนีหุ้น กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ ก็ขยับปรับตัวขึ้น 0.29%
ด้านหุ้นแอปเปิ้ล พุ่งขึ้น 1.8% หลังจากมีรายงานแอปเปิ้ล ใกล้บรรลุข้อตกลง กับบริษัทโอเพนเอไอ (OpenAI) ในการใช้ฟีเจอร์ ChatGPT ในผลิตภัณฑ์ไอโฟน
หุ้นอัลฟาเบท ดีดตัวขึ้น 0.3% ก่อนที่บริษัทจะเปิดตัวฟีเจอร์ ปัญญาประดิษฐ์ (AI) รุ่นใหม่ ในการประชุมกลุ่มนักพัฒนา ด้านเทคโนโลยี ในวันนี้
อย่างไรก็ตาม นอกเหนือจาก ตัวเลขเงินเฟ้อแล้ว นักลงทุนยังจับตาข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆ ของสหรัฐฯ ในสัปดาห์นี้ด้วย
นั้นคือรวมถึงดัชนีความเชื่อมั่นของธุรกิจขนาดย่อม เดือน เม.ย. จากสหพันธ์ธุรกิจอิสระแห่งชาติสหรัฐ (NFIB), ยอดค้าปลีกเดือน เม.ย.
ดัชนีตลาดที่อยู่อาศัย เดือน พ.ค. จากสมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติ (NAHB), จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์
รวมถึงตัวเลขการเริ่มสร้างบ้าน และการอนุญาตก่อสร้าง เดือน เม.ย., การผลิตภาคอุตสาหกรรม เดือน เม.ย. และดัชนีชี้นำเศรษฐกิจ เดือนเม.ย. จาก Conference Board อีกด้วย
ดาวโจนส์เปิดตลาด ขยับบวกทะลุ 100 จุด คาดมีหวัง เฟดลดดอกเบี้ย