

- บางจากฯ เปิดเทรนด์ใหม่อุดหนุน ‘ข้าวลดโลกร้อน’ วิสาหกิจชุมชนตำบลเดิมบาง จ.สุพรรณบุรี 40 ตัน เตรียมแจกลูกค้าตามปั๊ม
- ฉลอง “วันสิ่งแวดล้อมโลก” 5 มิ.ย. ยาวถึง 30 มิ.ย.66 ปลุกผู้บริโภคตื่นรับกระแสเลือกกินข้าวที่ปลูกแบบเกษตรสมัยใหม่
- ลดก๊าซเรือนกระจก ต้นเหตุโลกร้อนรุนแรงกระทบทุกภาคส่วน
นายสมชัย เตชะวณิช ประธานเจ้าหน้าที่การตลาด กลุ่มธุรกิจการตลาด บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด(มหาชน) เปิดเผยว่า บางจากได้รับมอบ “ข้าวลดโลกร้อน” จำนวน 40 ตัน เพื่อนำมาแจกในโอกาวันสิ่งแวดล้อมโลก5 มิถุนายน 2566 เป็นข้าวที่รับซื้อจากวิสาหกิจชุมชนแปลงใหญ่เกษตรสมัยใหม่ตำบลเดิมบาง จ.สุพรรณบุรี ผ่านบริษัท ออมสุขวิสาหกิจเพื่อสังคม จำกัด แล้วจะนำมาเป็นสมนาคคุณให้ลูกค้าตามสถานีบริการบางจากร่วมรายการพื้นที่ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ตั้งแต่วันที่ 5-30 มิถุนายน 2566 หรือจนกว่าสินค้าจะหมด
ตามที่บางจากฯ ให้ความสำคัญการสร้างช่องทางการตลาดให้ผลิตภัณฑ์ชุมชนต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2541 จนถึงปัจจุบัน ด้วยการคัดสรรผลผลิตจากเกษตรกร และผลิตภัณฑ์แปรรูปของกลุ่มชุมชนเพื่อนำมาเป็นของสมนาคุณลูกค้านำผลิตภัณฑ์ชุมชนที่ความโดดเด่นมาเป็นสื่อกลางเชื่อมโยงระหว่างผู้ผลิตสู่ผู้บริโภค สนับสนุนพี่น้องเกษตรกรไทยส่วนผลผลิตข้าวลดโลกร้อนครั้งนี้ยังสามารถช่วยรณรงค์เรื่องสภาวะโลกร้อนได้อีกทาง ซึ่งเป็นเรื่องที่ทุกคนต้องช่วยกัน

การรับมอบข้าวของบางจากฯ ครั้งนี้ มีนางกลอยตา ณ ถลาง ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานสื่อสารองค์กรและกิจการเพื่อความยั่งยืน บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ในฐานะกรรมการ บริษัท ออมสุขวิสาหกิจเพื่อสังคม จำกัด นำทีมพันธมิตรร่วมรณงค์สนับสนุนโครงการด้วย ได้แก่ นายพีรพันธ์ คอทอง รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ดร.แบนท์ คริสเตียนเซน ที่ปรึกษาทูตฝ่ายอาหารและการเกษตร ในฐานะผู้แทนเอกอัครราชทูตสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนีประจำประเทศไทย นายชิษณุชา บุดดาบุญ รองอธิบดีกรมการข้าว นายรพีทัศน์ อุ่นจิตตพันธ์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร ดร. นานา คึนเคล ผู้อำนวยการกลุ่มโครงการด้านการเกษตรและอาหาร องค์กรความร่วมมือระหว่างประเทศของเยอรมัน (GIZ Thailand) และ มิสเตอร์โอเล่ เฮนริกเซน ผู้อำนวยการโครงการ ไทยไรซ์นามา (Thai Rice NAMA)
สำหรับ “ข้าวลดโลกร้อน” เป็นตัวอย่างความสำเร็จในการเปลี่ยนมุมมองและวิถีการทำนาแบบใหม่ของวิสาหกิจชุมชนแปลงใหญ่เกษตรสมัยใหม่ ซึ่งได้รับการถ่ายทอดองค์ความรู้การทำนาแบบเปียกสลับแห้งในโครงการไทยไรซ์นามา (Thai Rice NAMA – Nationally Appropriate Mitigation Action) ภายใต้ความร่วมมือหลัก ระหว่างกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และองค์กรความร่วมมือระหว่างประเทศของเยอรมัน ประจำประเทศไทย (GIZ Thailand) มุ่งเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทำให้เกิดภาวะโลกร้อน โดยเปลี่ยนกระบวนการผลิตข้าวรูปแบบใหม่ของชาวนาเลือกใช้ 4 เทคโนโลยีเข้ามาช่วยลดต้นทุนคือ

1.ปรับพื้นที่นาด้วยเลเซอร์ให้เรียบเสมอกันเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการเพาะปลูก 2. การจัดการน้ำแบบเปียกสลับแห้ง 3.การใช้ปุ๋ยในปริมาณที่เหมาะสม และ 4.การจัดการฟางและตอซังด้วยน้ำหมักแทนการเผา สามารถเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและช่วยลดปริมาณก๊าซเรือนกระจกอย่างมีนัยสำคัญ คือ ลดก๊าซมีเทน และก๊าซไนตรัสออกไซด์ที่ปล่อยสู่ชั้นบรรยากาศ
จากการวิจัยและติดตามผลของโครงการ ไทยไรซ์ นามา พบว่า การทำนาแบบเปียกสลับแห้ง ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลงได้ราว 30% เทียบกับวิธีทำนาปกติ จึงเรียกว่า “นาข้าวลดโลกร้อน”เป็นอีกทางเลือกในการบริโภคที่จะช่วยบรรเทาภาวะโลกร้อน ขณะนี้กำลังส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อทุกภาคส่วนด้วยเช่นกัน
เรื่องโดย…#เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน#gurutourza, www.facebook.com/penroongyaisamsaen