

- เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องจะต้องเป็นผู้บริสุทธิ์
- ไม่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด
- ก่อนที่จะดำเนินการเรื่องยาเสพติด
นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยถึงกรณีที่นายอภินันท์ เผือกผ่อง ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช สั่งตรวจปัสสาวะรองผู้ว่าราชการจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการ และเจ้าหน้าที่ทุกคน ไม่เว้นแม้แต่ตัวเอง รวมกว่า 200 คน ก่อนร่วมประชุมที่ศาลากลางจังหวัดฯ ภายใต้นโยบาย “กวาดบ้าน ก่อนกวาดล้าง” ว่า กรณีดังกล่าวเป็นการแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นตั้งใจของกระทรวงมหาดไทยในการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดอย่างจริงจัง ภายใต้เจตนารมณ์เพื่อประกาศสงครามกับยาเสพติดทุกรูปแบบ ซึ่งถือเป็นกรณีที่น่าชื่นชมอย่างยิ่ง เพราะก่อนที่จะดำเนินการเรื่องยาเสพติด เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องจะต้องเป็นผู้บริสุทธิ์ และไม่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด
พร้อมกันนี้ยังได้กล่าวถึงกรณีปฏิบัติการ “กวาดบ้านให้สะอาด” ปลอดยาเสพติดของพื้นที่อื่น ๆ ซึ่งมีตัวอย่างผลการปฏิบัติหลายพื้นที่ เช่น จังหวัดปัตตานี ได้มีการสุ่มตรวจปัสสาวะหาสารเสพติดของบุคลากรฝ่ายปกครอง ทั้งข้าราชการ พนักงาน ลูกจ้าง และสมาชิกอาสารักษาดินแดน รวม 150 ราย และที่จังหวัดยะลา ก็ได้มีการตรวจปัสสาวะสมาชิก อส. จำนวน 270 ราย ด้วยเช่นกัน ซึ่งผลจากการสุ่มตรวจทั้งสองจังหวัดนี้ไม่พบสารเสพติดในร่างกายแต่อย่างใด ในส่วนของจังหวัดพระนครศรีอยุธยาได้ทำการปูพรมตรวจส่วนราชการ และ อปท. 10 แห่ง รวม 802 ราย พบสารเสพติด 9 ราย ซึ่งได้นำตัวไปสอบสวนและเข้าสู่กระบวนการตามกฎหมายแล้ว เป็นต้น ทั้งนี้ หากเจ้าหน้าที่รัฐมีส่วนเกี่ยวข้องกับยาเสพติดจะถูกดำเนินคดีอาญา และมีโทษทางวินัยอย่างเด็ดขาด
นายสุทธิพงษ์ กล่าวว่า ในมิติด้านการจับกุมและปราบปรามผู้กระทำความผิดที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดนั้น ยังคงดำเนินการอย่างจริงจังและต่อเนื่อง ทั้งรายใหญ่และรายย่อยในพื้นที่ของจังหวัดต่าง ๆ ทั่วประเทศ ซึ่งมีตัวอย่างผลการปฏิบัติวันที่ 27 ต.ค.ที่ผ่านมา เช่น จังหวัดพัทลุง ร.ต.อ.ณรงค์ หนูอักษร หน.ชปข.ร้อย ตชด.434 นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ร่วมกับฝ่ายปกครองทำการล่อซื้อยาบ้าจากผู้ต้องหา ซึ่งเป็นรายสำคัญในพื้นที่ พร้อมของกลางยาบ้า จำนวน 1,860 เม็ด เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวผู้ต้องหา ส่งพนักงานสอบสวน สภ.เกาะนางคำ เพื่อดำเนินคดีต่อไป รวมทั้งที่จังหวัดยโสธร นางวิชชุฎา เข็มเพชร นายอำเภอทรายมูล ได้สั่งการให้ฝ่ายปกครอง Re-X-Ray พื้นที่ สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 2 ราย พร้อมของกลางยาบ้า 13 เม็ด และที่จังหวัดเชียงใหม่ ว่าที่ ร.ต.นพรัตน์ ศุภกิจโกศล นายอำเภอสันป่าตอง ปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย ได้จับกุมผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด รวม 4 ราย พร้อมของกลางปืน 2 กระบอก จากที่กล่าวมาเป็นเพียงกรณีตัวอย่างซึ่งยังมีการรายงานการจับกุมอีกเป็นจำนวนมาก
ส่วนมิติด้านการบำบัดฟื้นฟู ขณะนี้ทุกจังหวัดเร่งเตรียมความพร้อม ทั้งทางด้านสถานที่ และเจ้าหน้าที่ เพื่อรองรับผู้ป่วยยาเสพติดเข้าสู่กระบวนการบำบัดรักษา หลังจากการ Re-X-Ray ตามที่ได้สั่งการให้ดำเนินการให้แล้วเสร็จ ภายในวันที่ 31 ตุลาคม 2565 โดยมีตัวอย่างการจัดหาสถานที่ที่ชัดเจนในการดำเนินการเปิดค่ายนำร่องรับผู้ป่วยจิตเวช อาทิ จังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งใช้พื้นที่กองร้อย อส.จังหวัดนครศรีธรรมราชที่ 1 เป็นสถานที่ในการบำบัดรักษา ซึ่งมีผู้เข้ารับการบำบัด รวม 53 ราย และมีกระบวนการคัดกรอง โดยทีมจิตแพทย์ เพื่อวินิจฉัยและส่งต่อไปยังสถานพยาบาลในพื้นที่ตามระดับความรุนแรงของอาการ หลังจากออกจาก รพ. จะนำมากักตัวให้กินยาตามที่แพทย์ระบุ ซึ่งหากผู้รับการบำบัดรักษาผ่านการประเมินแล้วจะส่งตัวกลับบ้าน เพื่อเข้าสู่กระบวนการติดตามรักษาต่อไป โดยในระหว่างการกักตัวจะมีการฝึกอาชีพ ตามความถนัดอีกด้วย พร้อมทั้งยังได้ทำการพูดคุยกับผู้ป่วยจิตเวช เพื่อทราบถึงสาเหตุของปัญหา เพื่อไม่ให้ผู้ป่วยจิตเวชกลับไปใช้ยาเสพติดอีก และผู้ค้ายาเสพติดในพื้นที่ เพื่อส่งต่อให้หน่วยงานความมั่นคงใช้เป็นข้อมูลในการขยายผลต่อไป
“ขณะนี้ทุกพื้นที่มีการเฝ้าระวังการกระทำความผิดทุกรูปแบบ ซึ่งหากมีการจับกุมให้ทำการเร่งทำการขยายผลทันที รวมถึงประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อระดมสรรพกำลังในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด อีกทั้งยังได้กำชับให้ทุกจังหวัด และอำเภอ บูรณาการร่วมกับภาคีเครือข่าย เร่งประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ช่องทางการเเจ้งเบาะเเส หรือ การร้องเรียนที่สายด่วนศูนย์ดำรงธรรม 1567 โทรฟรี ตลอด 24 ชั่วโมง โดยกระทรวงมหาดไทย พร้อมทั้งสนธิกำลังสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน (อส.) เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อสม. ในการดูแลอย่างใกล้ชิด รวมถึงทีมแพทย์ในพื้นที่พร้อมดูแล และฟื้นฟูผู้ป่วยให้กลับไปใช้ชีวิตได้อย่างปกติโดยไม่กลับไปไม่ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดอีก”