“หมอธีระ” ชี้ไทยต้องป้องกันตัวอย่างเคร่งครัด เผยจับตาดูโควิดหลังสัปดาห์ที่ 3 ธ.ค.นี้



วันนี้ (25 พ.ย.64) รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับสถานการณ์ “โควิด” ผ่านทางเฟซบุ๊ก โดยมีเนื้อหาระบุว่า…

ทะลุ 259 ล้านไปแล้ว เมื่อวานทั่วโลกติดเพิ่ม 592,359 คน ตายเพิ่ม 7,022 คน รวมแล้วติดไปรวม 259,636,411 คน เสียชีวิตรวม 5,190,443 คน

5 อันดับแรกที่ติดเชื้อสูงสุด ยังเป็นเช่นเดิมคือ อเมริกา เยอรมนี สหราชอาณาจักร รัสเซีย และฝรั่งเศส

จำนวนติดเชื้อใหม่ในแต่ละวันของทั่วโลกตอนนี้ มาจากทวีปเอเชีย ยุโรป และอเมริกาเหนือ ซึ่งรวมกันคิดเป็นร้อยละ97.09 ของทั้งโลก ในขณะที่จำนวนการเสียชีวิตคิดเป็นร้อยละ 95.71 ล่าสุดจำนวนติดเชื้อใหม่จากทวีปยุโรปนั้นมากถึง 67.31% ของทั้งโลก พอๆ กับจำนวนเสียชีวิตเพิ่มที่คิดเป็น 60.86% เมื่อวานนี้จำนวนติดเชื้อใหม่มีประเทศจากยุโรปครอง 8 ใน 10 อันดับแรก และ 16 ใน 20 อันดับแรกของโลก

สำหรับสถานการณ์ไทยเรา เมื่อวานติดเชื้อเพิ่ม 5,857 คน สูงเป็นอันดับ 20 ของโลก หากรวม ATK อีก 1,860 คน จะขยับเป็นอันดับ 18 ของโลก เป็นอันดับ 3 ของเอเชีย รองจากตุรกีและเวียดนาม

…เยอรมนี เมื่อวานติดเชื้อใหม่สูงเป็นประวัติการณ์ 73,966 คน เสียชีวิตเพิ่ม 321 คน แนวโน้มทั้งติดเชื้อและเสียชีวิตเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน เหลียวดูเรื่องวัคซีนของเค้า ฉีดไปครบสองโดส 68% โดยฉีดไปอย่างน้อย 1 โดส 70.5% และมีคนได้รับเข็มกระตุ้นไปแล้ว 7.4%

…เกาหลีใต้ ติดเชื้อใหม่และเสียชีวิตสูงสุดเท่าที่เคยระบาดมา ติดเพิ่ม 4,115 คน เสียชีวิตเพิ่ม 35 คน แนวโน้มทั้งติดเชื้อและเสียชีวิตเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน เหลียวดูเรื่องวัคซีนของเค้า ฉีดไปครบสองโดส 78.4% โดยฉีดไปอย่างน้อย 1 โดส 81.7% และมีคนได้รับเข็มกระตุ้นไปแล้ว 3.8%

…ด้วยสถิติที่เห็นจากประเทศต่างๆ ทั่วโลก การเปิดประเทศ ท่องเที่ยว และใช้ชีวิตแบบปกตินั้น จะตามมาด้วยเรื่องการระบาดที่หนักขึ้น ติดเชื้อเพิ่มและเสียชีวิตเพิ่มขึ้น แม้ประเทศเหล่านั้นได้มีอัตราการฉีดวัคซีนไปมากแล้วก็ตาม ดังนั้นไทยเราจึงต้องตระหนักถึงสิ่งที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต การป้องกันตัวอย่างเคร่งครัดจึงสำคัญมาก ใส่หน้ากากเสมอและเว้นระยะห่างจากคนอื่นเกิน 1 เมตร ช่วงที่ต้องจับตาดูคือหลังสัปดาห์ที่ 3 ของธันวาคมเป็นต้นไป

…วัคซีน ในช่วง 9-12 เดือนถัดจากนี้ไป คาดว่าจะมีข้อมูลจากการวิจัยทางการแพทย์ของต่างประเทศที่ติดตามหลังมีการฉีดวัคซีนไประยะที่ยาวนานเพียงพอที่จะบอกได้ว่า การฉีดวัคซีนโควิด-19 ในระยะยาวนั้นจะเป็นไปในลักษณะใดเพราะมีการติดตามทั้งเรื่องผลระยะยาวทั้งในด้านระดับภูมิคุ้มกันในน้ำเลือด (แอนติบอดี้) ภูมิคุ้มกันระดับเซลล์ การป้องกันป่วยรุนแรง การเสียชีวิต การติดเชื้อซ้ำ ฯลฯ รวมถึงการติดตามดูประสิทธิภาพในสถานการณ์จริงของสูตรหลักต่างๆ ทั้ง mRNA vaccines แบบชนิดเดียวหรือต่างชนิด, viral vector แบบชนิดเดียวหรือต่างชนิด, เชื้อตายสองโดสตามด้วย mRNA vaccines

ดังนั้นคำถามที่เราถามกันบ่อยว่า หลังจากนี้จะทำอย่างไรต่อ มีคำตอบตอนนี้เพียงว่าเรายังไม่ทราบ และกำลังมีการศึกษา ต้องรอติดตามกันอย่างใกล้ชิด

การตัดสินใจใดๆ ไม่ว่าจะยา วัคซีน หรืออื่นๆ ที่ส่งผลต่อสวัสดิภาพและความปลอดภัยในชีวิตของคนในสังคมวงกว้าง จำเป็นจะต้องอิงหลักฐานเชิงประจักษ์ที่มีคุณภาพมาตรฐาน และเป็นที่ยอมรับของสากล มิฉะนั้นจะส่งผลกระทบมากมาย ดังหลายต่อหลายเรื่องที่เราเห็นเป็นบทเรียนในช่วงที่ผ่านมา ด้วยรักและห่วงใย