

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ได้เผยแพร่ผ่านสื่อออนไลน์ทวิตเตอร์ ศธ.360 องศา ว่า นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ เปิดเผยถึงการวางแผนรับมือการเตรียมความพร้อมการเปิดภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2563 ในวันที่ 1 ก.ค.นี้ ว่า โรงเรียนต่างๆอาจจะต้องจัดการศึกษาแบบผสมผสาน อาจจะไม่สามารถจัดห้องเรียนแบบเดิมได้อีกต่อไป ซึ่งโรงเรียนขนาดใหญ่อาจจะไม่มีความคล่องตัวในการจัดการเรียนการสอน ตามมาตรฐานความปลอดภัยของการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนดอย่างเคร่งครัด ก็ให้โรงเรียนมีอำนาจตัดสินใจใช้แนวทางที่เหมาะสมกับบริบทของตนเองได้ เช่น สลับวันเรียน สลับชั้นเรียน สลับเวลาเรียน ให้นักเรียนมาเรียนช่วงเช้าและบ่าย เป็นต้น ซึ่งอาจสร้างความหนักใจให้โรงเรียน เพราะทำในสิ่งที่ไม่คุ้นเคย ยากต่อการบริหารจัดการ โรงเรียนจึงควรทำความเข้าใจให้กับครู นักเรียน ผู้ปกครอง และชุมชนด้วย
ทั้งนี้สำหรับการทดลองการเรียนทางไกลในช่วง 3 สัปดาห์ที่ผ่านมา (ตั้งแต่วันที่ 18 พ.ค.63) ทำให้เห็นแล้วว่าการศึกษาของไทยมีศักยภาพทำอะไรได้บ้าง และเห็นปัญหาอะไรบ้าง โดยเฉพาะเรื่องการใช้เครื่องมือดิจิทัลในการเรียนรู้ เรื่องภาระค่าใช้จ่ายของอินเทอร์เน็ต โดยที่ ศธ.จะต้องคำนึงถึงความพร้อมของทุกฝ่าย สร้างกลไกต่างๆ ให้ผู้ปกครองมีภาระน้อยที่สุด
อย่างไรก็ตามแนวทางการเรียนแบบผสมผสานในช่วงเปิดภาคเรียน ก็มีหลายหน่วยงานจัดเตรียมรูปแบบการเรียนการสอน เช่น โรงเรียนสังกัด กทม.จัดรูปแบบการเรียน เช่น สลับวันเรียน ในโรงเรียนขนาดกลางและขนาดใหญ่ โดยนักเรียนที่ไม่ได้ไปเรียนในวันปกติจะใช้วิธีเรียนทางออนแอร์และออนไลน์ หรือสลับชั้นเรียน เช่น ระดับอนุบาล ประถมศึกษาตอนต้น ให้มีการจัดการเรียนการสอนตามปกติ ส่วนประถมศึกษาตอนปลายและมัธยมศึกษาตอนปลาย ให้สลับวันมาเรียน ส่วนโรงเรียนขนาดเล็ก ให้นักเรียนไปเรียนทุกวันได้เช่นเดิม และรักษาระยะห่างทางสังคม