- หลังสั่งซื้อถึง 2.1 พันล้านโดสส่งมอบในปี 66
- หวังปราบสายพันธุ์เดลตาที่ระบาดหนัก
- ตอกย้ำความไม่เท่าเทียมของการเข้าถึงวัคซีน
เว็บไซต์ไฟแนนเชียลไทม์รายงานว่า ไฟเซอร์ และโมเดอร์นา ผู้ผลิตวัคซีนที่มีประสิทธิภาพในการป้องกันโควิด-19 มากที่สุดในขณะนี้ ประกาศปรับขึ้นราคาวัคซีนที่ขายให้กับทุกประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป (อียู)
ไฟแนนเชียล ไทม์ รายงานโดยอ้างแหล่งข่าววงใน และอ้างเอกสารสัญญาจัดซื้อของไฟเซอร์ว่า ไฟเซอร์ ขายวัคซีนราคาใหม่ที่โดสละ 19.50 ยูโร (23.15 เหรียญสหรัฐฯ หรือ 765 บาท) จากก่อนหน้านี้ขายที่ 15.50 ยูโร(18.39 เหรียญฯ หรือ 608 บาท)
ส่วนโมเดอร์นา ขายราคาใหม่ที่โดสละ 25.50 เหรียญฯ (841.5บาท) เทียบกับการทำสัญญาซื้อขายล็อต แรกที่โดสละ 22.60 เหรียญฯ (745 บาท) แม้ราคาจะถูกกว่าที่ตกลงกันไว้เบื้องต้นที่ 28.50 เหรียญฯ เนื่องจากสั่งซื้อในปริมาณที่มากกว่า
ด้านสำนักข่าวอัลจาซีราห์ ระบุว่า การปรับขึ้นราคาวัคซีนป้องกันโควิด-19 ของ 2 บริษัทยาชั้นนำโลกสะท้อนให้เห็นถึงความต้องการวัคซีนที่มีประสิทธิภาพ ที่ยังคงมีสูง และการที่รัฐบาลประเทศต่างๆ ตกอยู่ในภาวะจำยอม และจำเป็นต้องจ่ายเงินแพงขึ้นเพื่อให้ได้วัคซีนที่ต้องการ
โดยทุกประเทศในอียู ต้องการควบคุมกำจัดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยเฉพาะสายพันธุ์เดลตา และรัฐบาลในอียูกำลังพิจารณาความเป็นไปได้ที่จะฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันโควิด-19แก่ประชากร
สำหรับสัญญาซื้อขายฉบับล่าสุด ระบุให้ทั้ง 2 บริษัทส่งมอบวัคซีนทั้งหมด 2,100 ล้านโดสแก่อียู ตลอดช่วง 2 ปีข้างหน้าไปจนถึงปี 66
ด้านอิสราเอล ประกาศเมื่อวันที่ 1 ส.ค.ที่ผ่านมาว่า รัฐบาลจะเริ่มโครงการฉีดวัคซีนไฟเซอร์เข็มที่ 3 ให้กับผู้ที่อายุ 60 ปีขึ้นไป ที่ได้รับวัคซีนครบ 2 โดสมานานกว่า 5 เดือน เพื่อป้องกันการระบาดของไวรัสสายพันธุ์เดลตา
การปรับขึ้นราคาวัคซีนของไฟเซอร์ และโมเดอร์นาครั้งนี้ ตอกย้ำปัญหาความไม่เท่าเทียมในการเข้าถึงวัคซีนป้องกันโควิด-19 ระหว่างประเทศร่ำรวยและยากจน โดยที่ผ่านมา องค์การอนามัยโลก (ดับเบิลยูเอชโอ) ตำหนิบริษัท ไฟเซอร์ และโมเดอร์นาว่า กำลังมุ่งผลิตวัคซีน เพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดในประเทศร่ำรวย ซึ่งประชากรมีอัตราการได้รับวัคซีนสูง ทั้งที่ทั้ง 2 บริษัทควรเข้าร่วมโครงการโคแวกซ์ (COVAX) เพื่อช่วยกระจายวัคซีนไปยังประเทศ ที่ขาดแคลนอยู่ให้มากกว่านี้
