- พบ “สี จิ้นผิง” ผู้นำจีนเป็นครั้งแรก
- ช่วยนำไปสู่การเพิ่มความร่วมมือ
- เปลี่ยนผ่านพลังงานดั้งเดิมไปสู่พลังงานสะอาด
ประธานาธิบดี โจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐฯ เดินทางถึงกรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา ในช่วงเช้าวันนี้ เพื่อร่วมการประชุมสุดยอดผู้นำสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรือ อาเซียน (ASEAN) และการประชุมสุดยอดผู้นำเอเชียตะวันออก (East Asia Summit – EAS) ซึ่งเป็นการรวมกลุ่มของผู้นำอาเซียนและผู้นำจากประเทศพันธมิตรอย่าง ออสเตรเลีย จีน อินเดีย ญี่ปุ่น นิวซีแลนด์ เกาหลีใต้ รัสเซีย และสหรัฐฯ
การเข้าร่วมการประชุมที่กัมพูชา ยังมีขึ้นหลังจากที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เพิ่งเสร็จสิ้นการประชุมรัฐภาคีกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ครั้งที่ 27 หรือ COP27 ที่เมือง ชาร์ม เอล-ชีค ประเทศอียิปต์
และหลังจากเสร็จสิ้นการประชุมที่กัมพูชา เขาจะเดินทางไปบาหลี ประเทศอินโดนีเซีย ในวันพรุ่งนี้ (13 พ.ย.) เพื่อเข้าร่วมการประชุมกลุ่มประเทศเศรษฐกิจ 20 ประเทศ หรือจี-20 ซึ่งเขาจะพบปะกับประธานาธิบดี สี จิ้นผิงผู้นำจีนเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ประธานาธิบดีไบเดนเข้ารับตำแหน่งในปี 2564 การประชุม
วีโอเอ รายงานว่า ภารกิจทางการทูตของประธานาธิบดีไบเดนในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในครั้งนี้ อาจจะไม่ราบรื่นนัก เพราะสหรัฐฯ ต้องแข่งขันกับอิทธิพลของจีน ทั้งต้องขอการสนับสนุนเพื่อโดดเดี่ยวรัสเซีย แต่หลายประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ยังต้องพึ่งพาจีนทางด้านเศรษฐกิจในประเทศ ทั้งยังต้องพึ่งพารัสเซียในการคานอำนาจของสหรัฐฯ และจีน ทำให้หลายประเทศมีความลังเลที่จะมีการเคลื่อนไหวที่จะส่งผลกระทบต่อดุลอำนาจต่างๆ
อย่างไรก็ตาม นายมาร์ค มีลลี รองประธานอาวุโสด้านนโยบายแห่งสภาธุรกิจสหรัฐฯ-อาเซียน มีความเห็นว่า การประชุมระดับผู้นำเหล่านี้จะช่วยนำไปสู่การเพิ่มความร่วมมือเพื่อเปลี่ยนผ่านพลังงานดั้งเดิมไปสู่พลังงานสะอาด และการค้าทางดิจิทัล โดยปัจจุบัน ประเทศอาเซียน 4 ประเทศ ได้แก่ เวียดนาม สิงคโปร์ ไทย และมาเลย์เซีย ติดอันดับ 20 คู่ค้าสำคัญของสหรัฐฯ
