ไทยจับเข่าคุยลาวแก้ปัญหาแบนนำเข้าอาหารทะเล



  • ตั้งคณะทำงานร่วมวางแนวปฏิบัติส่งออกของไทย
  • กรมประมงย้ำคุมเข้มไม่ให้ปนเปื้อนโควิดทุกขั้นตอนผลิต
  • กรมควบคุมโรคร่วมยันไม่พบโควิดปนเปื้อนอาหารในไทย

นายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 12 ม.ค.64 กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ ได้จัดประชุมร่วมกับรองปลัดกระทรวงสาธารณสุข และอธิบดีกรมควบคุมโรค ของลาว โดยมีหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องของไทยร่วมด้วย ทั้งกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงการต่างประเทศ เพื่อหารือถึงการแก้ปัญหา และสร้างความเชื่อมั่นสินค้าอาหารทะเลไทย หลังทางการลาว ออกประกาศห้ามนำเข้าอาหารทะเลสดและแช่แข็งจากไทยชั่วคราว หลังการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่จ.สมุทรสาครตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา และทั้ง 2 ฝ่ายเห็นชอบร่วมกันให้จัดตั้งคณะทำงานร่วม เพื่อหารือในเชิงลึกถึงรายละเอียด และความเป็นไปได้ในการกำหนดแนวปฏิบัติสำหรับการส่งออกสินค้าดังกล่าวระหว่างกันเป็นเฉพาะ

นอกจากนี้ ไทยยังได้เน้นย้ำ และรับรองความปลอดภัยของอาหารทะเลสดและแช่แข็งของไทย รวมถึงได้ชี้แจงมาตรการกำกับดูแลของฝ่ายไทยที่มีความเข้มงวดมากยิ่งขึ้นในช่วงการแพร่ระบาด โดยกรมประมง ได้ชี้แจงมาตรการสำคัญในการดูแลกระบวนการผลิตอาหารทะเลทั้งระบบ ตั้งแต่ขั้นตอนการจับสัตว์น้ำ โดยผู้จับสัตว์น้ำต้องปฏิบัติตามมาตรฐานสาธารณสุข และสุขอนามัยเรือ กระบวนการผลิต ไปถึงการขนส่งออกจากด่าน ที่มีการฉีดพ่นน้ำยาที่รถขนส่งทุกครั้งก่อนออกจากด่าน และมีใบรับรองต่างๆ

อีกทั้งล่าสุดกรมประมงยังได้ออกมาตรการเพิ่มเติมในการป้องกันการปนเปื้อนโควิด-19 ในสัตว์น้ำและผลิตภัณฑ์สัตว์น้ำ เพื่อส่งออกไปประเทศเพื่อนบ้าน สำหรับผู้ประกอบการ 4 ประเภท ได้แก่ ผู้ประกอบการโมเดิร์น เทรด ผู้ประกอบการแพปลา สะพานปลา ผู้ประกอบการฟาร์มเลี้ยงสัตว์น้ำ และผู้ประกอบการเรือประมงพาณิชย์ นอกจากนี้ ผู้ส่งออกอาหารของไทย ต้องมีใบรับรองตามมาตรการป้องกันไวรัสโควิด-19 ด้วย ขณะเดียวกัน กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุขของไทย ยังยืนยันอีกว่า จนถึงปัจจุบัน ในประเทศไทยยังไม่พบการติดต่อของโควิด-19 จากผลิตภัณฑ์อาหาร หรือบรรจุภัณฑ์แต่อย่างใด ซึ่งเป็นข้อกังวลหลักของฝ่ายลาว

“การชี้แจงของไทย ในเบื้องต้น ฝ่ายลาวมีความยินดีที่ได้รับทราบข้อมูล ส่วนคณะทำงานร่วม 2 ฝ่าย อาจจัดทำในลักษณะความร่วมมือทวิภาคี เพื่อควบคุมดูแลให้เกิดความปลอดภัยตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทางคือ ผู้บริโภค โดยมีกรมประมง เป็นหน่วยงานหลักฝ่ายไทย และกระทรวงสาธารณสุข เป็นหน่วยงานหลักฝ่ายลาว ก่อนจะสรุปนำเสนอคณะทำงานเฉพาะกิจ ของลาว พิจารณายกเลิกประกาศห้ามนำเข้าดังกล่าวต่อไป”