ใครใช้ซิมการ์ดเกิน 5 หมายเลขเตรียมตัวลงทะเบียนใน 30 วันก่อนถูกระงับ



ราชกิจจานุเบกษาเตรียมออกประกาศใครถือครองซิมการ์ดเกิน 5 หมายเลข ต้องลงทะเบียนใน 30 วัน มิฉะนั้นจะถูกระงับการให้บริการหรือระงับสัญญาณ ด้าน “ผบช.สอท.” เผย 4 วิธีการตรวจสอบเลขหมายรู้ไว้ป้องกันมิจฉาชีพหลอกลวง

  • จะถูกระงับการให้บริการหรือระงับสัญญาณ
  • เผย 4 วิธีการตรวจสอบเลขหมาย
  • รู้ไว้ป้องกันมิจฉาชีพหลอกลวง

วันที่ 26 พ.ย.2566 พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. กล่าวถึงความคืบหน้าการดำเนินการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ว่า ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยพล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. ให้ความสำคัญต่อการขับเคลื่อนโยบายของรัฐบาลที่ปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่สร้างความเดือดร้อนให้กับพี่น้องประชาชน สั่งการให้ทาง บช.สอท. บูรณาการกับทุกภาคในการแก้ไขปัญหา คอลเซ็นเตอร์และภัยออนไลน์ทุกมิติ โดยมีการตั้งคณะทำงานพหุภาคีแก้ไขปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ,คณะทำงานด้านการปราบปราม ,คณะทำงานด้านการป้องกันและประชาสัมพันธ์เพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ,คณะทำงานแก้ไขกฎหมาย,ศูนย์ AOC ซึ่งเป็นศูนย์รับแจ้งความหมายเลข 1441 ตลอดจนศูนย์วิเคราะห์ข้อมูลเหตุอาชญากรรม

ซึ่งที่ผ่านมาทางตำรวจไซเบอร์ได้มีการระดมกวาดล้างอาชญากรรมรวมไปถึงการเปิดปฏิบัติการซิมสายเสาเพื่อตัดวงจรดังกล่าว ขณะเดียวกันในที่ประชุมคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี เมื่อวันศุกร์ 24 พ.ย. ที่ผ่านมาได้มีการหารือ แนวทางในการดำเนินการปราบปรามเรื่องซิมม้าและอาชญากรรมทางออนไลน์และสรุปมาตรการเร่งดำเนินการ โดยคาดว่าภายในเดือน ธ.ค. ที่จะถึงนี้จะมี ราชกิจจานุเบกษาออกประกาศให้ผู้ครอบครองหมายเลขโทรศัพท์มือถือหรือซิมการ์ด ตั้งแต่ 5 เลขหมาย ขึ้นไป ลงทะเบียนแจ้งการครอบครองกับผู้ให้บริการเครือข่ายภายใน 30 วัน นับตั้งแต่วันออกประกาศ

และหากไม่มีการยืนยันตัวตนภายใน 30 วันก็จะต้องระงับการให้บริการหรือระงับสัญญาณต่อไปทั้งนี้ เพื่อแก้ไขปัญหาเรื่องการนำซิมการ์ดไปใช้ก่ออาชญากรรมออนไลน์ต่างๆ ซึ่งขณะนี้ขั้นตอนการออกประกาศอยู่ระหว่างการดำเนินการของคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช.

นอกจากนี้ได้ประสานกับทางผู้ให้บริการเครือข่ายให้ช่วยกันตรวจสอบกรณีเลขหมายต้องสงสัยที่มีการ โทรไปยังหมายเลขอื่นโดยไม่ซ้ำกัน ซึ่งเป็นลักษณะสุ่มโท สุ่มโทร ให้ส่งข้อมูลมาทางศูนย์วิเคราะห์เพื่อที่ทางเจ้าหน้าที่จะทำการตรวจสอบ และหากเป็นเบอร์ที่ใช้ในการกระทำความผิดหรือเป็นเบอร์ที่ไม่สามารถยืนยันตัวบุคคลในการลงทะเบียนได้ก็จะต้องระงับตามขั้นตอนต่อไป

ขณะเดียวกันทางผบ.ตร.ได้เร่งดำเนินการขยายผลการจับกุม และทลายเครือข่ายบัญชีม้าและซิมม้า โดยสืบสวนสอบสวนในเชิงลึกถึงบัญชีในขั้นตอนต่างๆ พร้อมร่วมกับสมาคมธนาคารไทยและธนาคารพาณิชย์ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด เพื่อเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาให้ประชาชนและสร้างความมั่นใจในการดำเนินธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์

ในส่วนของวิธีการตรวจสอบเบอร์โทรศัพท์เพื่อป้องกันการถูกหลอกโอนเงินนั้น สามารถตรวจสอบว่าเป็นเบอร์ของมิจฉาชีพหรือไม่ได้หลายช่องทางประกอบไปด้วยนำเบอร์โทรค้นหาใน Google ตรวจสอบว่าเคยถูกแจ้งความข้อหาฉ้อโกง หรือมีผู้ลงข้อมูลไว้ว่าเป็นมิจฉาชีพหรือไม่,ค้นหาเบอร์ใน Facebookกรณีที่เบอร์โทรเคยผูกไว้กับบัญชี Facebook จะพบผู้ใช้เบอร์โทรดังกล่าว หรืออาจมีผู้โพสต์เตือนภัยไว้ว่าเป็นมิจฉาชีพ ,ค้นหาเบอร์ผ่าน แอปพลิเคชันไลน์

โดยเข้าไปที่ “เพิ่มเพื่อน” เลือก “ค้นหา” เลือก “หมายเลขโทรศัพท์” กรอกเบอร์โทรฯ ก็จะพบว่าผู้ใช้เบอร์โทรฯ นั้นคือใคร เป็นอวตารหรือไม่ และใช้แอปพลิเคชัน WHOSCALL ซึ่งเป็นแอปพลิเคชัน ที่ใช้ตรวจสอบเบอร์โทรศัพท์ โดย แอพพลิเคชั่นดังกล่าวจะบันทึกเบอร์โทรศัพท์ที่ผู้ใช้รายอื่นได้บันทึกไว้ว่าเป็นเบอร์ของมิจฉาชีพหรือไม่.