โควิด-19ไม่ระคาย!!! เงินเศรษฐีพลิกกลับเป็นบวก

  • กสิกรไทยแย้มบริหารเงินเศรษฐี ปีนี้สร้างผลตอบแทน 3 % ปีหน้าตั้งเป้า 5 %
  • ช่วงโควิด-19ดัชนีหุ้นทั่วโลกดิ่งเหว เศรษฐีตาขาวตัดใจทิ้งหุ้นเจ็บตัวถ้วนหน้า
  • พวกใจกล้ารับทรัพย์พุงปลิ้น หลังดัชนีเด้งแรงจากติดลบ30 % กลับมาเป็นบวก 11 %

นายจิรวัฒน์ สุภรณ์ไพบูลย์ Private Banking Group ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า การรับบริหารสินทรัพย์ให้กับลูกค้าไพรเวทแบงก์กิ้งในปีหน้า 2564 ได้ตั้งเป้าหมายสร้างผลตอบแทนอย่างต่ำที่ 5 % ต่อปี โดยกยุทธ์การลงทุน ยังต้องลงทุนในตลาดหุ้นโลก ที่ยังเติบโตได้ต่อเนื่อง โดยเฉพาะหุ้นในเอเชีย และหุ้นที่เปลี่ยนแปลงไปตามวัฎจักรเศรษฐกิจ ส่วนนักลงทุนที่ชอบลงทุนในตราสารหนี้ ก็เน้นลงทุนในกลุ่มประเทศเกิดใหม่ โดยตั้งเป้าหมายสินทรัพย์ที่รับบริหารเติบโต 10-15 % จากปัจจุบันมีอยู่ 806,741 ล้านบาท

“ปีหน้าความเสี่ยงการลงทุนยังไม่หายไป ต้องสร้างความสมดุลของพอร์ตการลงทุน การลงทุนในทองคำ ยังถือว่าเป็นส่วนประกอบสำคัญ และควรหลีกเลี่ยงการลงทุนสินทรัพย์ที่เป็นเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐฯ หรือหากต้องการลงทุน ก็ต้องปิดความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยน”

สำหรับเศรษฐกิจโลกในปี 64 มีแนวโน้มจะฟื้นตัวแบบไนกี้ ขณะที่นโยบายของนายโจ ไบเดน ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ เชื่อว่าจะไม่เป็นอุปสรรคต่อการค้าขายของโลก ด้านการท่องเที่ยว หรือภาคบริการ ยอมรับว่า จะเริ่มเห็นการฟื้นตัวได้ในช่วงครึ่งปีหลังของปีหน้า นอกจากนี้ยังต้องติดตามการลดการกระตุ้นเศรษฐกิจ (QE) ในช่วงครึ่งปีหลัง 64 เนื่องจากอาจมีผลกระทบต่อตลาดเงินและตลาดทุน

นายจิรวัฒน์ กล่าวอีกว่า ในปี 2563 ไพรเวทแบงก์กิ้งของธนาคารกสิกรไทย มีจำนวนลูกค้าทั้งหมด 12,159 ราย มีสินทรัพย์ที่รับบริหารรวม 806,741 ล้านบาท แบ่งเป็นสินทรัพย์ลงทุน 543,732 ล้านบาท ส่วนที่เหลือเป็นการฝากเงินและลงทุนในพันธบัตร อย่างไรก็ตามสินทรัพย์ลงทุนตามคำแนะนำธนาคารมีอยู่ 300,000 ล้านบาท สามารถสร้างผลตอบแทนเฉลี่ยที่ 3 % ต่อปี

นอกจากนี้สินทรัพย์ลงทุนทั้งหมด เป็นการลงทุนในตลาดหุ้น 102,934 ล้านบาท ในช่วงเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา เกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ดัชนีของตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวลดลง 30 % นักลงทุนที่ตกใจขายหุ้นก็ต้องประสบปัญหาการขาดทุน เพราะล่าสุดดัชนีหุ้นปรับขึ้นมาเป็นบวก 11 % เมื่อเทียบกับต้นปี 63 ส่วนดัชนีตลาดหุ้นยุโรปยังติดลบเล็กน้อย ส่วนดัชนีตลาดหุ้นไทยติดลบ 3 % ขณะที่ดัชนีตลาดหุ้นจีนปรับเพิ่มขึ้นอย่างร้อนแรง เพราะสามารถแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดโควิด-19 ได้อย่างรวดเร็ว