Ignite วิบากกรรม เศรษฐา ลุ้น!เหงื่อหยด ศาลรัฐธรรมนูญ ถอดถอน

ศาลรัฐธรรมนูญ เศรษฐา ถอดถอน
ศาลรัฐธรรมนูญ รับคำร้อง ถอดถอนนายกรัฐมนตรี ให้ชี้แจงภายใน 15 วัน

ภารกิจของ 40 สว. ยื่นต่อ ศาลรัฐธรรมนูญ ขอให้ ถอดถอน ความเป็นรัฐมนตรีของ “ เศรษฐา ทวีสิน ” นายกรัฐมนตรี และ “พิชิต ชื่นบาน” ผู้ถูกร้องที่ 2 ตามรัฐธรรมนูญ 170 วรรคหนึ่ง(4) ประกอบมาตรา160 (4) (5) ถือว่าสำเร็จไปแล้วชั้นหนึ่ง

นับหนึ่ง ศาลรัฐธรรมนูญ รับคำร้อง ถอดถอน เศรษฐา

เพราะนอกจาก พิชิต จะร่อนหนังสือ ไขก๊อก จากตำแหน่งรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ตัดหน้าก่อนที่ศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัย เมื่อวันที่ 24 พ.ค.ที่ผ่านมาแล้ว

ศาลฯยังมีมติ 6 ต่อ 3 รับคำร้องไว้วินิจฉัย ว่าการที่นายเศรษฐา แต่งตั้ง นายพิชิตนั้น (4)เป็นการกระทำ ที่ไม่ซื่อสัตย์สุจริต และ(5)ฝ่าฝืนมาตรฐาน ทางจริยธรรม หรือไม่  

คดีดังกล่าว น่าแปลกใจตรงที่ ที่ผ่านมา เมื่อศาลรัฐธรรมนูญ รับคำร้องไว้แล้ว ส่วนใหญ่ จะให้ผู้ถูกร้อง หยุดปฏิบัติหน้าที่ ทันที ทว่าคดีนี้ กลับมีมติ 5 ต่อ 4 ไม่สั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่นายกฯ

จนกว่า ศาลจะวินิจฉัย หากดูจากมติ ก็ต้องถือว่า ฉิวเฉียด “เศรษฐา”เกือบโดนฟ้าผ่า หยุดปฏิบัติหน้าที่ ระหว่างปฏิบัติภารกิจที่ประเทศญี่ปุ่น

ขั้วอนุรักษ์นิยมเปิดฉากซัดกันเอง “กลุ่มลุง” อยู่เบื้องหลัง

ฟันธง ไปเลยว่า นี่คือ “การเมือง” ที่แท้จริง ของขั้วอนุรักษ์นิยมด้วยกันเอง ไม่ต้องคิดให้ปวดหัวว่า เป็นปัญหาทางกฎหมายหรือไม่ มันก็เป็นเพียงการหยิบกฎหมาย ขึ้นมาเล่นงานอีกกลุ่มหนึ่ง ที่อยู่ในขั้วเดียวกัน

ความเคลื่อนไหวนี้ เริ่มจาก “กลุ่มลุง” เปิดฉากอัด “กลุ่มรัฐบาล” ที่มีนายใหญ่ เป็นผู้นำจิตวิญญาณ!!!

ส่วนสาเหตุ และ แรงจูงใจนั้น สังคมการเมือง ตั้งข้อสันนิษฐานหลายข้อ บ้างว่ากลุ่มอำนาจเก่า หมั่นไส้ “ทักษิณ ชินวัตร” ที่ไม่ยอมอยู่อย่างสงบ ทั้งที่ขณะนี้ พักโทษอยู่

แต่กลับมีแอคชั่น ต่างๆนานา ยุ่งทั้งการเมืองภายใน และระหว่างประเทศ มากเกินงาม เป็นนิสัยเดิมๆของ “นายทักษิณ” ที่ชอบแทรกแซง สั่งการ รวบอำนาจ เชิดหุ่น สร้างนอมินี

บ้างก็ว่า กลุ่มอำนาจเก่า ดีลประโยชน์ที่ทวาย ไม่ลงตัว จึงปลุก รักยม สว.ขึ้นมา ฮึ่มๆ ข่มขู่ ฝ่ายตรงกันข้าม ซึ่งก็สมประสงค์แล้วส่วนหนึ่ง เนื่องจากเตะ “พิชิต ชื่นบาน” มือกฎหมาย ผู้ซื่อสัตย์ ต่อระบอบทักษิณ ออกจากทำเนียบรัฐบาล ได้เรียบร้อยโรงเรียนลุง

แถม ศาลรัฐธรรมนูญ ยังรับคำร้องไว้วินิจฉัย “เศรษฐา” แต่งตั้ง “พิชิต” ผิดจริยธรรมหรือไม่อีก งานนี้หลายคนวิเคราะห์ว่า ทั้งนายใหญ่และนายกฯ ร้อนๆหนาวๆ เพียงแต่รุ่นใหญ่ขนาดนี้ ใจต้องนิ่ง จึงออกมา เคลื่อนไหวใ ห้สัมภาษณ์มั่นใจ รับมือได้สบายๆ ชี้แจงได้อยู่แล้ว

แต่ไม่ว่า จะทำเป็นใจดีสู้เสือ อย่างไร สุดท้ายขึ้นอยู่กับ “ตุลาการศาลฯ” จะตัดสินอย่างไร??? ต้องติดตามตอนต่อไป 

ตามกระบวนการศาล ให้เวลานายกฯ 15 วัน ในการแจกแจง รายละเอียดเกี่ยวกับ การแต่งตั้ง “พิชิต” เป็นรัฐมนตรี แต่ในมุมมอง นักวิชาการ และคอการเมือง เชื่อว่า ศาลจะต้องเรียกบุคคล ที่เกี่ยวข้อง กับเรื่องนี้มาให้ข้อมูล ด้วย อาทิ อดีตรัฐมนตรีพิชิต กฤษฎีกา เป็นต้น

ฉะนั้น ไทม์ไลน์ การตัดสินของศาล ในเรื่องนี้ น่าจะไล่เลี่ย กับที่ คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ประกาศรับรอง สว. 200 คน หรือช่วงต้นเดือนก.ค.2567

เล่นเกมการเมืองกระทบการลงทุน ประเทศหยุดชะงัก

อย่างไรก็ตาม ด้วยการเมืองลักษณะเช่นนี้ ทำให้เกิดสุญญากาศ ต่อการบริหารประเทศ นายกฯพยายาม เดินทางชักชวนต่างชาติเข้ามาลงทุนในไทย แต่ปรากฎว่าตัวนายกฯเอง ก็อยู่ในภาวะรอมร่อ จะหลุดจากตำแหน่งหรือไม่ ยังไม่มีใครรู้  ความไม่นิ่ง แบบนี้ มีโอกาสสูงที่นักลงทุนจะไม่เชื่อมั่นในการเมืองไทย แล้วหันไปลงทุนประเทศอื่นแทน

เหมือนที่ “ทักษิณ” มองว่า  “คงไม่ถึงขั้นล้มนายกฯ เศรษฐาได้ แต่อาจเป็นการสร้างความวุ่นวาย บ้านเมืองชะงักบ้าง เป็นเรื่องธรรมดา แต่มองว่าจะไม่มาก เพราะหากชี้แจงได้ ก็ไม่เป็นอะไร และพรรคเพื่อไทย ไม่ต้องเตรียมรับมืออะไร ทำอะไรให้ถูกต้อง ไม่เป็นไร ไม่ต้องไป หวั่นไหวมาก”

เช่นเดียวกับ “เกรียงไกร เธียรนุกุล” ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ที่ระบุว่า ” ความชัดเจนเกิดขึ้นเมื่อศาลฯรับคำร้อง ยิ่งทำให้นักลงทุน เกิดความกังวล ต่างโทรเข้ามาสอบถาม เป็นจำนวนมาก

แสดงให้เห็นถึง ความกังวล ซึ่งย่อมมีผล ต่อความเชื่อมั่น อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เนื่องจากไม่รู้ว่า สถานการณ์ในระยะข้างหน้าจะเป็นอย่างไร ต้องลุ้นจนกว่าศาลฯ จะวินิจฉัยแล้วเสร็จ ซึ่งช่วงเวลานี้ ระหว่างไต่สวน ก็จะมีความเสี่ยงหมด”

สงครามตีวัวกระทบคราด คนเป็นตัวแทนต้องยอมเจ็บ ยอมปิดปาก งานนี้ทั้ง “พิชิต” และ “เศรษฐา” ต้องรับศึกหนักหน่วง เพราะเป็นหมากสำคัญ ที่กลุ่มอำนาจเก่า จะใช้กระแทก สะเทือนให้ถึง “นักโทษเทวดา”

ดูอย่าง นายพิชิต เมื่อเห็นปัญหาจะเกิดก็ยอมกัดฟัน ลาออกจากตำแหน่ง ที่ใฝ่ฝันมานาน นับเป็นรัฐมนตรีคนที่ 3 ที่ลาออกในรัฐบาลชุดนี้ และเป็น 2 ใน3 คน ที่เมื่อได้รับการโปรดเกล้าฯแต่งตั้งไม่ทันไร ก็ลาออกแล้ว บางทีอาจต้องคำนึงว่าจะมีผลถึงตัวเองอย่างไรบ้าง เรื่องนี้ต้องระมัดระวังไว้ด้วย

การยื่นคำร้องของ 40 สว.ครั้งนี้ จนกลายเป็นคดีความ ทำให้ลดความซ่า ของนายใหญ่ และ รัฐบาลเพื่อไทย ไปได้ระยะหนึ่ง และแม้ “นายทักษิณ” จะให้ความมั่นใจว่า เศรษฐาจะเป็นนายกฯ ตลอดรอดฝั่งนั้น แต่เรื่องแบบนี้ ไม่ได้อยู่ที่ใคร คนใดคนหนึ่งเท่านั้น ก็เหมือนกับที่ “ทักษิณ” บอกว่า การเมืองภายนอก มีความลี้ลับ พอสมควร นั่นเอง

อ้างอิงข้อมูลจาก : ศาลรัฐธรรมนูญ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง : ด่วน! มติศาลรธน. สั่งรับคำร้อง 40 ส.ว. เรื่อง “นายกฯ ตั้ง นาย พิชิต เป็น รมต.”