โควิดลามหนัก “ชัยภูมิ”สั่งล็อกดาวน์ 3 หมู่บ้าน เข้มกักตัว 14 วัน ห้ามรวมตัวพื้นที่ชุมชนเกิน 2 คน



ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 25 มิ.ย.2564 นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ ประธานกรรมการโรคติดต่อจังหวัดชัยภูมิ ผู้กำกับการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินจังหวัดชัยภูมิ ออกประกาศปิดพื้นที่เป็นการชั่วคราว เพื่อเป็นการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคลิตเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19)ในพื้นที่จังหวัดชัยภูมิ โดยระบุว่า

ด้วยปรากฏมีการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) จำนวนมากในพื้นที่ หมู่ที่ 1 ,9 และ 13 ตำบลห้วยแท้ อำเภอหนองบัวระเหว จังหวัดชัยภูมิ ซึ่งมีครัวเรือนจำนวน 853 หลังคาเรือนและมีประชากร จำนวน 2,630 คน

ดังนั้น เพื่อเป็นการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไรวัสโคโรนา 2019 (โควิด-19)ในพื้นที่ดังกล่าวจึงอาศัยอำนาจตามข้อ 7 (3) ของข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 3) ลงวันที่ 25 มีนาคม พ.ศ.2563 ข้อ 9 วรรคสอง ของข้อกำหนดออกตามความในมาตราแห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2547 (ฉบับที่20) ลงวันที่ 16 เมษายน พ.ศ.2564 ประกอบมาตรา 22 (7) และพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดชัยภูมิ ในการประชุม ครั้งที่ 48/2564 เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2564จึงให้ปิดสถานที่ในพื้นที่จังหวัดชัยภูมิเป็นการชั่วคราว ดังนี้

1.ห้ามผู้ใดเข้าโปหรือออกจากพื้นที่หมู่ที่ 3,9,33 ตำบลห้วยแย้ อำเภอหนองบัวระเหวจังหวัดชัยภูมิ เป็นเวลา 14 วัน นับตั้งแต่วันที่ 24 มิถุนายน พ.ศ.2564 เวลา 18.00 น. เป็นต้นไป เว้นแต่ผู้ที่เป็นเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ หรือผู้ที่มีเหตุผลความจำเป็นจะต้องให้วับอนุญาตเป็นหนังสือรับรองจากเจ้าพนักงานครบคุมโรคติดต่อ

2.ให้ศูนย์ปฏิบัติการควบคุมโรคติดต่ออำเภอหนองบัวระเหว เร่งรัดการตรวจหาผู้ติดเชื้อเชิงรุกค้นหากลุ่มเสี่ยง เช่น ผู้สัมผัสเสี่ยงสูง/ต่ำ ในพื้นที่ตังกล่าว และให้แยกกักผู้ติดเชื้อเพื่อส่งเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลโดยทันที

3.ให้ผู้สัมผัสเสี่ยงสูง/ต่ำ ที่อยู่ในพื้นที่ตังกล่าว แยกกักตัวเอง แยกกิน แยกของส่วนตัวในครัวเรือน เพื่อเฝ้าระวังและรับการตรวจคัดกรอง สังเกตดูอาการตัวเอง อยู่ที่บ้านหรือที่พัก หรือสถานที่ที่ทางราชการกำหนด เป็นเวลาไม่น้อยกว่า 14 วัน

4.ให้ศูนย์ปฏิบัติการควบคุมโรคติดต่ออำเภอหนองบัวระเหว ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สมาชิกกองอาสารักษาดินแดน (อ.ส.) และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง จัดตั้งจุดสกัด และสายตรวจ เพื่อเป็นการควบคุมการเข้า – ออก ในพื้นที่ดังกล่าว กรณีมีเหตุความจำเป็นต้องเดินทางเข้า – ออกพื้นที่ดังกล่าว ให้แสดงหลักฐานการขออนุญาตจากผู้นำท้องที่ ผู้นำท้องถิ่น ต่อเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน ณ ด่านตรวจทุกครั้ง และเมื่อเสร็จสิ้นภารกิจต้องรีบเดินทางเข้าหรือออกจากพื้นที่ตังกล่าวแล้วแต่กรณีโดยทันที

5.ห้ามไม่ให้มีการรวมกลุ่มกันในพื้นที่ชุมชนดังกล่าวเกินกว่า 2 คนขึ้นไป

6.ให้งดการจัดกิจกรรมทางสังคม เว้นแต่ ได้รับความเห็นชอบจากศูนย์ปฏิบัติการควบคุมอำเภอหนองบัวระเหว (ศปก.อ.) และให้ปฏิบัติตามมาตรการในการป้องกันเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด -19)

7.ห้ามไม่ให้มีการจำหน่ายสุราหรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ทุกชนิด และห้ามไม่ให้มีการบริโภคสุราหรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ทุกชนิด ในพื้นที่ดังกล่าวโดยเด็ดขาด

8.เน้นน้ำให้ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ตังกล่าว สวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า 100% ล้างมือ เช็ดพื้นผิวที่หยิบจับสัมผัสบ่อย หลีกเสี่ยงเข้าไปในสถานที่ที่หนาแน่น ให้เน้นมาตรการป้องกันโรคฯ D-M-H-T-T-A (การรักษาระยะห่างทางสังคมอย่างน้อย 3 เมตร สวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าทุกครั้งที่ออกจากบ้าน หมั่นล้างมือ ตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย ผู้ที่มีอาการ ประวัติสัมผัสใกล้ชิดผู้ป่วยยินยัน หรือเดินทางเข้าไปในพื้นที่เสี่ยงให้เข้ารับการตรวจหาเชื้อ และใช้แอปพลิเคชัน “ไทยชนะ”และ”หมอชนะ”)

9.ให้ทุกครัวเรือนดำเนินการทำความสะอาด ล้าง เช็ดตัวน้ำยาฆ่าเชื้อบริเวณบ้านเรือนที่พักของตัวเอง และพื้นที่ใกล้เดียง ตลาด ร้านค้า รวมทั้งขึ้นที่สาธารณะเพื่อสร้างสภาพพื้นที่ในหมู่บ้านให้มีความสะอาดปลอดจากเชื้อโรคทุกระยะ

อนึ่ง เนื่องจากเป็นกรณีที่มีความจำเป็นรีบด่วน หากปล่อยให้เนิ่นข้าไปจะก่อให้เกิดผลเสียหายอย่างร้ายแรงแก่สาธารณชน หรือกระทบต่อประโยชน์สาธารณะ และหากผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำสิ่งนี้ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปีหรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ