
นางสายชล ทรัพย์มากอุดม หัวหน้าฝ่ายงานประชาสัมพันธ์ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือAIS กล่าวว่า จากสถานการณ์โควิด-19 ที่ส่งผลให้เกิดการทำงานทั้งที่บ้านแทนออฟฟิศ WFH และเรียนอยู่บ้าน LFH รวมไปถึงการค้าขายออนไลน์ ที่ล้วนแล้วแต่ทำให้คนไทยสื่อสารบนแพล็ตฟอร์มออนไลน์เพิ่มขึ้นอย่างมาก ส่งผลให้เหล่ามิจฉาชีพสร้างรูปแบบการโจรกรรมข้อมูลส่วนบุคคล และหลอกลวงข้อมูลในหลากหลายรูปแบบเพิ่มมากขึ้นเป็นเงาตามตัวเช่นกัน
“ไม่ว่าจะเป็นฟิชชิ่ง หลอกให้เข้าเว็บไซต์ปลอมเพื่อลวงเอาข้อมูลส่วนตัว, การฉวยโอกาสจากสถานการณ์ปัจจุบันในสังคม เช่น การจองคิวฉีดวัคซีน, การหลอกถามเลข OTP-One Time Password แล้วนำไปสวมรอยทำธุรกรรมทางการเงิน, โฆษณา แบบ Pop up หลอกว่าตรวจพบไวรัสและให้กดเพื่อทำลาย, ข่าวปลอมต่างๆ ที่ลวงให้แชร์ต่อ เป็นต้น” นางสายชล กล่าว
นางสายชล กล่าวต่อว่า ล่าสุดพบอีกรูปแบบของการหลอกลวงที่เกิดขึ้นคือ การชักชวนให้เข้าไปทำแบบสำรวจออนไลน์ (Online Survey) พร้อมแชร์ต่อไปยังเครือข่ายของผู้ตอบแบบสำรวจ เพื่อแลกรับของรางวัล โดยเมื่อลูกค้าเข้าไปลงทะเบียนผ่าน URL ของ Link ที่เป็นลักษณะแบบสำรวจออนไลน์แล้ว จะทำให้เบอร์ของลูกค้ามีการส่ง iSMS ไปยังต่างประเทศโดยอัตโนมัติ เกิดค่าใช้จ่ายสูงขึ้นกว่าปกติโดยไม่รู้ตัว พร้อมทั้งมีความเสี่ยงในการถูกนำข้อมูลส่วนบุคคลไปใช้ในทางที่ไม่ถูกต้องอีกด้วยเช่นกัน

ทั้งนี้ในส่วนของ AIS หลังจากตรวจพบความผิดปกติดังกล่าว ก็ได้ทำการบล็อก URL หรือ Link ที่เข้าข่าย เพื่อป้องกันให้ลูกค้า AIS ไม่สามารถกดเข้าไปที่ URL หรือ LINK นั้นได้อีกต่อไป
อย่างไรก็ตาม มิจฉาชีพอาจสร้าง URL หรือ LINK ในลักษณะคล้ายคลึงกันขึ้นได้อีกในอนาคต ดังนั้นด้วยความห่วงใย ทาง AIS จึงขอแจ้งเตือน ขอให้ลูกค้าระมัดระวัง โดยไม่กดไปที่ URL หรือ LINK ที่ไม่คุ้นเคย หรือมีข้อความเชิญชวนร่วมกิจกรรมที่ไม่สมเหตุสมผล หรือการให้กรอกข้อมูลเพื่อแลกรับของรางวัล ควรตรวจสอบให้มั่นใจก่อนว่าURL หรือ Link จริงหรือไม่ ก่อนแชร์หรือส่งต่อให้คนรู้จัก ทั้งนี้เพื่อป้องกันความเสี่ยงในการเปิดให้มิจฉาชีพเข้าถึงข้อมูลส่วนตัว หรือการเกิดค่าใช้จ่ายที่ผิดปกติที่อาจจะส่งผลเสียหายได้นั่นเอง










