เฮลั่น!!กันทั่วประเทศ ศบค. มีมติยกเลิกเคอร์ฟิว คลายล็อกระยะ 4 ดื่มเหล้า-จัดคอนเสิร์ต-สนามเด็กเล่น-จัดอีเวนท์-จัดประชุม ได้แล้ว มีผลบังคับ 15 มิ.ย.นี้

นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. เปิดเผยว่า วันนี้ (12 มิ.ย.) เป็นการประชุม ศบค.ชุดใหญ่ มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เป็นประธาน โดยในที่ประชุมเริ่มต้นโดยการกล่าวขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่ทำงานหนัก ทำให้ตัวเลขคนที่ติดเชื้อเป็นศูนย์ต่อเนื่องมาหลายวัน มีชื่อเสียงระดับโลก ทั้งนี้นายกรัฐมนตรี กล่าวว่ายังไม่สามารถไว้วางใจความเสี่ยงของการระบาดของโควิด-19 ระลอกที่ 2 ได้ เพราะยังมีความเสี่ยงระดับสูง สิ่งที่เน้นย้ำ และต้องทำโดยเร็วคือ การวิจัยยาและพัฒนาวัคซีนอย่างจริงจัง เพื่อให้ทันต่อการดูแลคนในประเทศ 

ขณะที่ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคงรายงานว่า ประชาชนส่วนใหญ่ให้ความร่วมมือดี ในการตรวจตามจุดต่างๆ ขณะที่ กทม. และกระทรวงมหาดไทย ได้รายงานหลายอย่าง เรื่องการช่วยเหลือเยียวยา ทั้งนี้นายกรัฐมนตรีได้เน้นย้ำ เรื่องการตรวจกิจการ-กิจกรรมให้ทำอย่างเปิดเผยมีกิริยามารยาทที่ดี ดำเนินมาตรการเข้มงวด หากฝ่าฝืนให้ดำเนินคดี 

ขณะที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้เสนอแนวทางการเปิดประเทศเพื่อการท่องเที่ยวอย่างจำกัด โดยในหลักการ ต้องตรวจเชื้ออย่างเข้มงวด ต้องมีประกันสุขภาพ และมีระบบติดตาม ซึ่งกลุ่มเป้าหมายคนที่จะเข้ามาคือ กลุ่มนักธุรกิจ หรือกลุ่มที่เข้ามารับบริการตรวจรักษาทางการแพทย์ โดยจะมีคณะกรรมการกำหนดมาตรการต่างๆ โดยเน้นเรื่องการปลอดเชื้อ รวมถึงประชาชนและประเทศชาติต้องได้รับประโยชน์

นายแพทย์ทวีศิลป์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ศบค. มีมติเกี่ยวกับการเปิดกิจกรรมกิจการหรือผ่อนคลายมาตรการระยะที่4 ว่า เตรียมจะยกเลิกการห้ามออกนอกเคหสถาน หรือยกเลิกเคอร์ฟิวโดยจะมีผลบังคับใช้วันที่ 15 มิ.ย. แต่ยังคงควบคุมการเดินทางเข้าราชอาณาจักร ทั้งทางบก น้ำ และอากาศ นอกจากนี้ยังเปิดใช้อาคารสถานที่โรงเรียนสถาบันการศึกษา ของโรงเรียนนานาชาติ โรงเรียนนอกระบบ และสถาบันกวดวิชา เปิดการเรียนการสอนได้ ขณะที่เปิดการเรียนการสอนของโรงเรียนที่มีนักเรียนไม่เกิน 120 คน หรือโรงเรียนขนาดเล็ก หรือโรงเรียน ตชด.ตั้งแต่วันจันทร์ที่15 มิ.ย.

นายแพทย์ทวีศิลป์ กล่าวว่า ในที่ประชุม ศบค. ได้มีมติอนุญาตให้เริ่มกิจกรรมด้านเศรษฐกิจและการดำรงชีวิต ทั้งการจัดประชุมอบรมสัมมนา จัดนิทรรศการ งานพิธี การรจัดเลี้ยง นาฎศิลป์ คอนเสิร์ต ที่จัดในโรงแรม ห้องประชุม ศูนย์ประชุม ศูนย์แสดงสินค้า หรือสถานที่อื่นๆ จัดอีเวนท์ เปิดตัวสินค้า แต่ต้องมีระยะเว้น 1 เมตร งานดนตรี คอนเสิร์ต ต้องไม่หนาแน่นเกินไป 5 ตารางเมตรต่อคน นอกจากนี้ยังสามารถขายเหล้าในภัตตาคาร ศูนย์อาหาร ในสถานที่ที่ได้รับอนุญาตตามกฎหมาย ยกเว้นสถานบริการ สถานบันเทิง ผับบาร์ คาราโอเกะและโรงเบียร์ ยังไม่อนุญาตให้จำหน่ายแอลกอฮอล์

นอกจากนี้ยังมีมติอนุญาตเปิดสถานรับเลี้ยงเด็ก สถานดูแลผู้สูงอายุ สถานสงเคราะห์ที่จัดสวัสดิการให้เด็กและผู้สูงอายุรายวัน รวมถึงเปิดศูนย์วิทยาศาสตร์ เช่น ท้องฟ้าจำลอง กองถ่าย รายการรวมให้ไม่เกิน150 คน และมีผู้ชมไม่เกิน 50 คน ส่วนกิจกรรมสันทนาการ อบ นวด แผนไทย เน้นบริการแยกห้องเดี่ยวสามารถทำได้ ส่วนห้องรวมหรือบ่อออนเซ็นรวมนั้น ให้ควบคุมผู้ใช้บริการ ส่วนธุรกิจอาบอบนวดยังไม่อนุญาตเปิดให้ดำเนินการ ด้านการออกกำลังกายแบบกลุ่มในสวนสาธารณะดำเนินการได้แต่ไม่เกิน 50 คน

นายแพทย์ทวีศิลป์ กล่าวอีกว่า การผ่อนปรนระยะ 4 นี้ ยังให้เปิดสวนน้ำ สนามเด็กเล่นสวนสนุก เว้นเครื่องเล่นที่มีพื้นผิวสัมผัสมากเช่น บ้านบอล หรือบ้านลม ส่วนสนามกีฬาลานกีฬา จัดการแข่งขันได้ แต่ต้องไม่มีผู้ชมอยู่ในสนามแข่งขัน และเปิดตู้เกม เครื่องเล่นหยอดเหรียญได้

“ทั้งนี้ที่ประชุม ศบค. ยังหารือเรื่องการรขนส่งข้ามจังหวัด โดยอนุญาตบริการเครื่องบินในประเทศได้ แต่ต้องสวมหน้ากากตลอดเวลา ส่วนรถโดยสารต้องมีระบบลงทะเบียนติดตามตัว และปฏิบัติตามมาตรการควบคุมโรค โดยจะมีการออกข้อกำหนดมาอีกครั้ง” นายแพทย์ทวีศิลป์ กล่าว