เหตุเจรจาการค้าสหรัฐฯ-จีนแป้ก ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินเงินบาททยอยแข็งค่า ดัชนีหุ้นร่วง

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย รายงานว่า ดัชนีตลาดหุ้นไทยร่วงลงจากสัปดาห์ก่อน โดยดัชนี SET ปิดที่ระดับ 1,602.23 จุด ลดลง2.17% จากสัปดาห์ก่อน ขณะที่มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 47,763.36 ล้านบาท ลดลง 19.10% จากสัปดาห์ก่อนส่วนตลาดหลักทรัพย์ mai ลดลง 3.95% จากสัปดาห์ก่อน มาปิดที่ 319.49 จุด

สำหรับสัปดาห์ถัดไป (18-22 พ.ย.62) ธนาคารกสิกรไทยประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทที่ 30.10-30.40 บาทต่อดอลลาร์ฯ บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด มองว่า ดัชนีหุ้นไทยมีแนวรับที่ 1,590 และ 1,575 จุด ขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 1,615 และ 1,625 จุด ตามลำดับ

โดยปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม คงได้แก่ ตัวเลขจีดีพีไตรมาส 3/62 ของไทย สถานการณ์การเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีน สถานการณ์ BREXIT รวมถึงถ้อยแถลงเจ้าหน้าที่ระดับสูงของเฟด ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญได้แก่ บันทึกการประชุมเฟด ข้อมูลการเริ่มสร้างบ้าน ยอดขายบ้านมือสองเดือนต.ค. ดัชนี PMI Composite (เบื้องต้น) และผลสำรวจแนวโน้มธุรกิจของเฟดสาขาฟิลาเดลเฟียเดือนพ.ย. ขณะที่ ปัจจัยต่างประเทศที่สำคัญอื่นๆ ได้แก่ ดัชนีราคาผู้บริโภคเดือนต.ค. ของญี่ปุ่น รวมถึงดัชนี PMI Composite (เบื้องต้น) เดือนพ.ย.ของยูโรโซนและญี่ปุ่น

สำหรับเงินบาทสัปดาห์ที่ผ่านมา ขยับแข็งค่าขึ้นสอดคล้องกับทิศทางเงินเยนซึ่งเป็นสกุลเงินปลอดภัย ที่ได้รับแรงหนุนท่ามกลางความกังวลต่อสถานการณ์การเจรจาการค้าของสหรัฐฯ-จีน ซึ่งมีสัญญาณเชิงลบตั้งแต่ช่วงต้นสัปดาห์ที่ประธานาธิบดีสหรัฐ โดนัลด์ ทรัมป์ ออกมากล่าวว่ายังไม่มีการตอบตกลงเรื่องการทยอยลดภาษีสินค้านำเข้าจากจีนและสหรัฐฯ อาจปรับเพิ่มภาษีอีกครั้ง หากสองประเทศไม่บรรลุข้อตกลงทางการค้าระยะแรกระหว่างกัน

อย่างไรก็ดี เงินบาทกลับมาทรงตัวในกรอบแคบๆ ในช่วงปลายสัปดาห์ ขณะที่นักลงทุนยังคงรอประเมินความคืบหน้าของดีลการค้าของสหรัฐฯ-จีนอย่างใกล้ชิด ในวันศุกร์ (15 พ.ย.62) เงินบาทอยู่ที่ 30.21 บาทต่อดอลลาร์ฯ เทียบกับระดับ 30.38 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในวันศุกร์ก่อนหน้า (8 พ.ย.62)