เริ่มเห็นแสงสว่างกันแล้ว…“หมอยง” เผยข่าวดี วัคซีนสู้โควิด มีแววทำสำเร็จในปี 64

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (10 พ.ย.2563) ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิกภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊ก : Yong Poovorawan โดยเนื้อหาได้กล่าวถึงเกี่ยวกับสถานการณ์โควิด-19 โดยระบุว่า…

วัคซีนโควิด-19 ใกล้จุดหมายปลายทาง

วันนี้เราได้ข่าวดีเบื้องต้นของ mRNA วัคซีนบริษัท “ไฟเซอร์ อิงค์” กับ “ไบโอเอ็นเทคฯ”  ถึงประสิทธิภาพของโควิดวัคซีน ประมาณ 90% 

จากการศึกษายังไม่ครบ กำหนดในอาสาสมัครกว่า 40,000 คน การศึกษาจะแบ่งกลุ่มเป็นให้วัคซีนโควิด และวัคซีนหลอก โดยผู้ฉีดและผู้รับวัคซีน ก็ไม่รู้ว่าได้วัคซีนจริงหรือหลอก และติดตามการติดเชื้อ แล้วมาคำนวนว่าถ้าฉีดวัคซีนติดเชื้อกี่คน วัคซีนหลอกติดเชื้อกี่คน มาคิดประสิทธิภาพเป็นเปอร์เซ็นต์ในการป้องกันได้ถึง  90% ก็นับว่าดีมาก

การทดลองยังไม่เสร็จ และจำนวนผู้ติดเชื้อไปแล้วจาก 40,000 คน คือ 94 คน ยังน้อยเกินกว่าเป้าหมายที่คาดไว้ ว่าจำนวนผู้ที่ติดเชื้อรอให้ถึง 164 หรือน่าจะรอถึงเดือนหน้าก็คงรู้ประสิทธิภาพที่แท้จริง

วัคซีนที่อยู่ในระยะที่ 3 ทั้งชนิดเชื้อตาย วัคซีนที่ใช้ไวรัสเวกเตอร์ และ mRNA 

วัคซีนมี 10 ตำรับ ที่อยู่ในระยะที่ 3 ทำการศึกษาแบบเดียวกัน จะออกผลในเดือนหน้าอีกหลายตำรับ และก็คงจะเห็นผลกันชัดเจนขึ้น โดยปกติ  RNA เป็นอนุภาคที่สลายตัวง่าย จำเป็นต้องห่อให้เป็น nanoparticle ด้วยไขมัน

วัคซีนนี้จะยากในการเก็บรักษา ขบวนการควบคุมความเย็น โดยเฉพาะต้องส่งในสภาพแช่แข็ง -20°C การใช้ในประเทศยากจนจะยากลำบาก

วัคซีนเชื้อตายที่จริงผลิตยังรอประสิทธิภาพอยู่ น่าจะเก็บควบคุมอุณหภูมิที่ 4°C ได้ ก็จะง่ายต่อการใช้

ส่วนไวรัสเวกเตอร์ที่จะส่งเทคโนโยลีมาผลิตที่ไทย ก็จะง่ายต่อการนำไปใช้

ถ้ามีวัคซีนที่มีประสิทธิภาพสูงหลายตัว ก็เห็นแสงสว่างในการควบคุมโควิดให้ได้ภายในปีหน้า (2564)