“เพื่อไทย” ซ้อมอภิปรายไม่ไว้วางใจ “พล.อ.ประยุทธ์” บริหารโควิดผิดพลาด ซัดอุ้ม”อธิบดีเสเพล”

  • รัฐบาลอุ้ม “รัฐมนตรี-อธิบดี”​เสเพล
  • ยื่นหนังสือให้นายกฯตรวจสอบแล้วเมื่อเม.ย. เรื่องยังเงียบ
  • ร้องดีอีเอส ซึ่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบ “อธิบดี”ติดโควิด

เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2564 ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม และรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยนายจิรพงษ์ ทรงวัชราภรณ์ ส.ส.นนทบุรี พรรคเพื่อไทย ร่วมกันแถลงข่าวกรณีการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม โดยนายยุทธพงศ์ กล่าวว่า พรรคเพื่อไทย มีความมั่นใจในการน็อกรัฐบาลครั้งนี้   ซึ่งในญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจระบุว่า พล.อ.ประยุทธ์ ในฐานะผอ.ศบค. บริหารงานผิดพลาดจนเป็นเหตุให้โควิด-19 ระบาดจนเกินจะควบคุม และมีรัฐมนตรีเสเพล และอธิบดีเสเพล ติดโควิด19 ระลอกเม.ย.ที่ผ่านมา 

โดยขอยกตัวอย่างอธิบดีเสเพลด้วย คือ นายณัฐพล ณัฏฐสมบูรณ์ อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา แต่พล.อ.ประยุทธ์ไม่กล้าจัดการ เพราะนายกฯกลัวอธิบดีคนดังกล่าว ซึ่งตนเคยไปร้องนายกฯ กรณีดังกล่าวมาแล้วตั้งแต่วันที่ 26 เม.ย. 64 ที่ทำเนียบรัฐบาล โดยมีภาพอธิบดีคนดังกล่าวถือแก้วสาเก มีหญิงสาวนั่งข้างๆ หน้ากากก็ไม่ใส่ มีภาพนั่งดื่มไวน์ มีแก้ไวน์ ขณะที่นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศบค. กำลังแถลง ไม่แคร์มาตรการที่ศบค.ออกมาเลย จากนั้นวันที่ 12 เม.ย.64 อธิบดีคนนี้ก็ติดโควิด แต่วันที่ 16 เม.ย. 64 ยังมานั่งเซ็นเอกสารสั่งราชการ ทั้งที่ตามมาตรการแล้วต้องเข้ารับการรักษาเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่งคนที่เซ็นชื่อบนคำสั่งดังกล่าว คือ พล.อ.ประยุทธ์ แบบนี้จะประกาศทำแมวอะไร ถ้าอธิบดีคนดังกล่าวยังมานั่งทำงาน และเซ็นเอกสารได้ อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้มีโทษตามพ.ร.บ.โรคติดต่อว่า ใครจงใจปกปิด หรือแจ้งข้อมูลเท็จจะมีความผิด  ซึ่งอธิบดีกรมอุตุฯปกปิด และแจ้งข้อมูลเท็จ แบบนี้ฝ่ายค้านจึงต้องออกมาไล่พวกท่าน ทั้งนี้ จากที่พวกตนเคยร้องไปจนถึงวันนี้ก็ยังเงียบ

“เมื่อปี 57  คศช. มีคำสั่ง เด้ง นายณัฐพลไปดองไว้ที่กรมโรงงานอุตสาหกรรม 6 ปี แต่ต่อมา ครม.ก็เอานายณัฐพลกลับมาดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมอุตุฯ ตนไปสืบดูว่าเหตุใดพล.อ.ประยุทธ์จึงไม่ดำเนินการอะไรกับอธิบดีคนนี้ ปรากฏว่า มีเสธ อ.อ่าง วปอ.57 ซึ่งเป็นเสธที่ใหญ่มาก และค้ำเก้าอี้พล.อ.ประยุทธ์อยู่ เป็นแบ็คให้อธิบดีคนนี้ เรื่องนี้ตนไม่กลัว และตนท้าให้ฟ้องด้วย เพราะตนเคยไปร้องกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ลงวันที่ 10 สิงหาคมที่ผ่านมา กระทรวงดีอีเอสมีหนังสือตอบรับมาว่า มีมูล และได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบกรณีดังกล่าว”

นายยุทธพงศ์ กล่าวอีกว่า ตนได้อภิปรายงบประมาณปี 65 กรมอุตุฯมีการตั้งสำนักเถื่อน คือ สำงานอธิบดี ซึ่งหลังการอภิปรายของตนนายณัฐพล ได้มีคำสั่งลงวันที่ 20 สิงหาคม 64 ยกเลิกการตั้งสำนักงานอธิบดีดังกล่าว ถ้าไม่ผิดจะรีบยกเลิกคำสั่งดังกล่าวทำไม เรื่องนี้ รัฐมนตรีดีอีเอสเตรียมตัวตอบคำถามไว้ได้เลย ว่าทำไมจึงไม่จัดการกรณีดังกล่าว นอกจากนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ยังจะถูกอภิปรายกรณีการของบฯจัดซื้อรถใหม่แต่สุดท้ายเอางบฯไปแปลเป็นงบซ่อมรถที่หมดสภาพนี่คือการไม่ปฏิบัติตาม พ.ร.บ.งบประมาณ ทาง สตง.จึงท้วงติง แต่ขณะนี้ ผอ.สำนักงบฯเซ็นเรื่องนี้เข้า ครม.เพื่ออนุมัติแล้ว ดังนั้น พรุ่งนี้ (30 สิงหาคม) ตนและนายจิรพงษ์จะไปยื่นเรื่องนี้ต่อ สตง. และพล.อ.ประยุทธ์ เพื่อเบรกเรื่องนี้ ถ้าพล.อ.ประยุทธ์ยืนยันจะเอาเข้าครม. ก็เอาเข้าไปเลย แล้วเจอกันในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ และหลังการอภิปรายก็เจอกันที่ ป.ป.ช.

นายยุทธพงศ์ กล่าวอีกว่า สำหรับเรื่องการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. หลังจากที่ไม่ได้เลือกตั้งมานานกว่า 8 ปี โดยพล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯ กทม. รักษาการตามคำสั่งมาตรา 44 ซึ่งเรื่องทั้งหมดพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และนายกฯ ดึงเรื่องไว้ไม่ให้มีการเลือกตั้ง เนื่องจากจะมีการต่อสัญญาสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียว ดังนั้น ตนท้าบริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จํากัด (มหาชน) ที่ระบุว่า กทม. เป็นหนี้ค่าวิ่งรถกว่า 3 หมื่นลเนบาท แน่จริงฟ้องนายอัศวิน ผู้ว่าฯ กทม. เลย ถ้าไม่ได้รู้กัน ก็ฟ้องเลย

https://fb.watch/7GXEEeA5Nc/

“ผมและพรรคเพื่อไทยขอเรียกร้องให้มีการจัดการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. โดยเร็ว เพราะหากไม่ดำเนินการ ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ตนจะลากให้ถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยเลย แล้วถ้า พล.อ.อัศวินแน่จริง ก็มาลงสมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯ รถติด ฝนตก น้ำท่วม ไม่มีการแก้ไข ก็เพราะว่าไม่มีผู้ว่าฯกทม.ตัวจริง ถ้าที่ผ่านมาคุณคิดว่าทำดีก็มาลงสมัครรับเลือกตั้ง แล้วให้ประชาชนตัดสินใจ และพรุ่งนี้ (30 สิงหาคม) เวลา 10.00 น. จะมีการฉายหนังตัวอย่างเรื่องของกองทัพเรือเพื่อเป็นการเรียกน้ำย่อยต่อ โดยจะเรียกน้ำย่อยทุกวันจนกว่าจะถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจ โดยตนไม่กลัวข้อมูลรั่วด้วย เพราะมีข้อมูลอีกมาก”