“กิตติรัตน์” นำทีมเกษตรเพื่อไทย หารือเกษตรกรสวนปาล์ม เผชิญปัญหาผลผลิตไม่สม่ำเสมอ ผู้รับซื้อกำหนดราคา และตลาดส่งออกกีดกัน
- แก้ปัญหาด้วยการเพิ่มผลผลิตต่อไร่
- การเพิ่มปริมาณน้ำมันในผลปาล์ม
- บริหารจัดการต้นทุนการผลิตปาล์ม
ทีมวิชาการเกษตรเพื่อไทย นำโดย นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง อดีตรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้การต้อนรับ เพื่อปรึกษาหารือและแลกเปลี่ยนแนวทางแก้ไขปัญหาปาล์มกับ นายอธิราษฎร์ ดำดี เกษตรกรสวนปาล์มน้ำมัน จังหวัดกระบี่ กรรมการสภาเกษตรกรแห่งชาติ อดีตผู้ทรงคุณวุฒิคณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติและคณะ เพื่อยกระดับรายได้ชาวสวนปาล์ม
โดยประเทศไทยมีพื้นที่ปลูกปาล์ม 6.15 ล้านไร่ เกษตรกรสวนปาล์มมีประมาณ 400,000 ครัวเรือน กระจายอยู่ทุกภาคของประเทศ และ 90% อยู่ในพื้นที่ภาคใต้ กำลังการผลิตรวมประมาณ 18 ล้านตันต่อปี โดยผลผลิตเฉลี่ยปาล์มประเทศไทยอยู่ที่ 2.99 กิโลกรัมต่อไร่ ใกล้เคียงกับมาเลเซียและอินโดนีเซีย ซึ่งได้ผลผลิตที่ 3-3.2 กิโลกรัมต่อไร่
ปัญหาที่ชาวสวนปาล์มเผชิญวันนี้ คือ (1) ปัญหาผลผลิตไม่สม่ำเสมอ ทำให้ยากต่อการจัดการของลานเทรับซื้อ (2) การซื้อขายปาล์มที่ลานเท และโรงงานไม่มีการกำหนดราคากลาง ทำให้การกำหนดราคาปาล์มทำโดยผู้รับซื้อเท่านั้น ดังนั้นในฤดูปาล์ม ราคาจะถูกจนไม่คุ้มค่าจ้างตัดทะลายปาล์ม ไม่คุ้มค่ารถขนส่ง (3) ตลาดส่งออกเดิมคือยุโรป เริ่มมีการตั้งข้อกำหนดต่างๆ อาทิ Zero Palm Oil ไม่รับซื้อน้ำมันปาล์มจากที่ปลูกที่ไม่มีกรรมสิทธิ์ที่ดิน
สำหรับแนวทางและวิธีการพัฒนายกระดับการผลิตปาล์ม คือ (1) การเพิ่มผลผลิตต่อไร่ (2) การเพิ่มปริมาณน้ำมันในผลปาล์ม และ (3) ต้นทุนการผลิตปาล์ม คือการจัดการด้านอุปทาน (supply) ที่เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญสู่การยกระดับคุณภาพมาตรฐานผลผลิต สู่รายได้ที่ดีขึ้นของเกษตรกรชาวสวน ส่วนการจัดการอุปสงค์ (demand) ในฐานะพืชพลังงาน เราริเริ่มใช้น้ำมันบี100 ไบโอดีเซลจากน้ำมันปาล์ม 100% แทนน้ำมันดีเซล ทดสอบในเรือโดยสารคลองแสนแสบ ซึ่งได้รับการยืนยันว่าไม่กระทบต่อเครื่องยนต์ ก็จะสามารถสนับสนุนต่อยอด และช่วยรักษาเสถียรภาพด้านราคา ไม่กระทบเกษตรกรหากบริหารจัดการสร้างสมดุลให้เหมาะสม
ทั้งนี้ พรรคเพื่อไทย อยากให้เกษตรกรพัฒนาการปลูกปาล์มคุณภาพ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อเกษตรกรโดยตรง ขอความร่วมมือสภาเกษตรกรช่วยกันผลักดันในพื้นที่ปลูกด้วย เพราะการพัฒนาน้ำมันปาล์มให้เป็นสินค้าที่มีคุณภาพเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มและโอกาสใหม่ในการสร้างรายได้แก่เกษตรกรให้แก่ประเทศไทย พรรคเพื่อไทยจะให้การสนับสนุนเต็มที่
