

- ครูแห่ลงทะเบียนแก้หนี้แล้ว 4.1 หมื่นราย
- หลังจากประมวลผลข้อมูลแล้ว
- จะส่งข้อมูลให้สถานีแก้หนี้ครูฯ ตรวจสอบ
นายสุทิน แก้วพนา รองปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ ได้ชี้แจงต่อที่ประชุมคณะกรรมการแก้ไขปัญหาหนี้สินครูและบุคลากรทางการศึกษาระดับเขตพื้นที่การศึกษา และหน่วยงานการศึกษา ถึงแนวทางการดำเนินการของสถานีแก้หนี้ครูระดับเขตพื้นที่การศึกษา ซึ่งถือเป็นหน่วยงานที่มีความสำคัญ เพราะจะช่วยเหลือเจรจาไกล่เกลี่ยระหว่างลูกหนี้ และเจ้าหนี้ ระหว่างสถาบันการเงิน และสหกรณ์ออมทรัพย์ หรือจะช่วยเจรจาระหว่างลูกหนี้ และผู้ค้ำประกัน โดยแนวทางการดำเนินงานของสถานีแก้หนี้ครูฯ มีดังนี้ หลังจากที่ ศธ.เปิดให้ครูทั้งประเทศลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการ “สร้างโอกาสใหม่ให้ครูไทย” ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ – 15 มีนาคม 2565 ขณะนี้มีครูและบุคลากรทางการศึกษาลงทะเบียนแก้หนี้ตามโครงการดังกล่าวแล้วกว่า 41,000 รายแล้ว หลังจากประมวลผลข้อมูลแล้ว จะส่งข้อมูลให้สถานีแก้หนี้ครูฯ เพื่อตรวจสอบข้อมูลอีกครั้ง จากนั้นจะเชิญลูกหนี้ และผู้ค้ำประกัน มาให้ข้อมูลครูรายบุคคล โดยให้ข้อมูลทั้งรูปแบบออนไลน์ และออนไซต์
นายสุทินกล่าวต่อว่า ต่อมาให้สถานีแก้หนี้ครูฯ จะวิเคราะห์ข้อมูลรายบุคคลเชื่อมโยงเครดิตบูโร โดยบริษัทข้อมูลเครดิตแห่งชาติเปิดระบบเชื่อมต่อข้อมูลกับแอพพลิเคชั่น ซึ่งขอข้อมูลเครดิตบูโรแบบย่อของลูกหนี้โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย และโปรแกรมคำนวณ โดยธนาคารแห่งประเทศไทยสนับสนุนโปรแกรมคำนวณเงินกู้ผ่านเว็บไซต์ เพื่อให้สถานีแก้หนี้ครูฯ ใช้ข้อมูลเพื่อควบคุมยอดหนี้ทั้งหมดของผู้กู้ไม่ให้มากกว่า 70% ของรายได้ เพื่อให้ครูมีเงินใช้จ่ายได้ 30% ของเงินเดือน ติดต่อเจรจากับสหกรณ์ออมทรัพย์ครู และสถาบันการเงินของรัฐที่เป็นเจ้าหนี้ทุกราย รวมทั้ง เชิญลูกหนี้ และผู้ค้ำประกันทุกคน มาเจรจาไกล่เกลี่ยกับเจ้าหนี้ทุกราย นอกจากนี้ สถานีแก้หนี้ครูฯ จะจัดเจรจาไกล่เกลี่ยหาข้อยุติในประเด็นต่างๆ เช่น ลดดอกเบี้ย รีไฟแนนซ์ ลดค่าธรรเนียมประกัน ปรับโครงสร้างหนี้ เป็นต้น
“การพิจารณาให้ความช่วยเหลือ หรือปรับโครงสร้างหนี้กับเจ้าหนี้ทุกราย ครูต้องมีเงินเดือนชำระหนี้ไม่เกินร้อยละ 70 ของเงินเดือน และต้องมีเงินเดือนคงเหลือหลังหักชำระหนี้ไม่น้อยกว่าร้อยละ 30 เมื่อได้ข้อตกลงร่วมกันแล้ว ให้เจ้าหนี้ และลูกหนี้ รวมทั้ง ผู้ค้ำประกัน ทำสัญญาปรับโครงสร้างหนี้ ทั้งนี้ ให้สถานีแก้หนี้ครูฯ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ติดตามการดำเนินการตามข้อตกลงให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน และรายงานข้อมูลรายบุคคลที่ได้รับการช่วยเหลือในระบบออนไลน์ และสรุปรายงานรอบเดือนภายในวันที่ 5 ของเดือนถัดไปต่อต้นสังกัด และคณะกรรมการแก้หนี้สินครูจังหวัด และคณะกรรมการแก้หนี้ ศธ.ต่อไป” นายสุทิน กล่าว
ทั้งนี้วิธีปรับโครงสร้างหนี้มี 8 วิธี ดังนี้ 1.ยืดระยะเวลาผ่อนชำระหนี้ออกไปเพื่อให้ค่างดวลดลง 2.พักชำระเงินต้นช่วงระยะเวลาหนึ่ง เช่น 6 เดือน หรือ 12 เดือน 3.ลดอัตราดอกเบี้ยที่เคยตกลง หรือกำหนดไว้ในสัญญาเพื่อลดภาระดอกเบี้ยจ่าย 4.ยก หรือผ่อนปรนดอกเบี้ยผิดนัดชำระหนี้ เพื่อให้ค่างวดที่ผ่อนเข้ามาสามารถตัดเงินต้นได้มากขึ้น 5.เพิ่มเงินทุนหมุนเวียน เพื่อเสริมสภาพคล่อง และสำรองไว้ยามฉุกเฉิน 6.เปลี่ยนประเภทหนี้ จากสินเชื่อดอกเบี้ยสูงเป็นสินเชื่อที่มีดอกเบี้ยต่ำกว่า 7.ปิดจบจ่ายหนี้เร็วขึ้น เพื่อลดภาระดอกเบี้ย ถ้ามีเงินก้อน และ 8.รีไฟแนนซ์ปิดสินเชื่อจากเดิม เพื่อใช้สินเชื่อที่ใหม่ที่มีเงื่อนไขดีกว่า