เปิดประวัติ ส.ต.อ. สุดเหี้ยม! กราดยิงศูนย์เด็กเล็กจ.หนองบัวลำภู พบเสพยา มีพฤติกรรมชอบใช้ปืนยิงขึ้นฟ้า

  • พบมีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับยาเสพติด จนร่างกายซูบผอม 
  • ชอบมีอารมณ์ฉุนเฉียว เพื่อนตำรวจต่างทราบดี ไม่มีใครอยากเข้าไปยุ่ง
  • เคยนำอาวุธปืนไปยิงสุนัขของประชาชน จนต้องมีตำรวจไปช่วยไกล่เกลี่ยให้
  • พบเคยถูกผู้บังคับบัญชาเรียกคุย พร้อมรยอมรับว่าเสพสารเสพติดมาตั้งแต่ตอนเรียนมัธยมแล้ว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (6 ต.ค.65) จากกรณีอดีต ส.ต.อ.คลั่ง บุกกราดยิงศูนย์เด็กเล็กใน อบต.เขตอำเภอนากลางจังหวัดหนองบัวลำพู จนทำให้มีผู้เสียชีวิตทั้งเด็กและผู้ใหญ่รวม 36 ราย และบาดเจ็บอีก 12 ราย รวมผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจากเหตุการณ์นี้ทั้งสิ้น 48 ราย

ทั้งนี้ สำหรับประวัติตำรวงคลั่งดังกล่าวมีชื่อว่า ส.ต.อ.ปัญญา คำราบ อายุ 34 ปี เข้ารับราชการเมื่อปี 2555 ตำแหน่งผบ.หมู่ ป.สน.ยานนาวา กรุงเทพฯ ก่อนย้ายมา สภ.นาวัง เมื่อปี 2562 จากนั้นก็เริ่มมีปัญหาทะเลาะกับแฟน เนื่องจากแฟนไม่ได้ย้ายมาอยู่ด้วยกัน และเริ่มมีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับยาเสพติด จนร่างกายซูบผอม รวมถึงมีอารมณ์ฉุนเฉียวซึ่งเพื่อนตำรวจต่างทราบดี และไม่มีใครอยากเข้าไปยุ่งเกี่ยว

นอกจากนี้ เมื่อออกปฏิบัติหน้าที่ก็ไม่เชื่อฟังคำสั่งของผู้บังคับบัญชา โดยมีอยู่ครั้งหนึ่งผู้บังคับบัญชาให้ไปปฏิบัติหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่ธนาคารออมสิน แต่ ส.ต.อ.ปัญญา ไม่ได้เข้าไปปฏิบัติหน้าที่ กลับไปนอนอยู่ในรถซึ่งจอดไว้หน้าธนาคาร เมื่อผู้จัดการธนาคารออมสิน ได้ขอความช่วยเหลือโดยให้คุ้มกันการเคลื่อนย้ายนำเงินเข้าเครื่องATM กลับแสดงอาการไม่พอใจ ทำท่าจะชักปืนขู่ ทำให้ผู้จัดการธนาคารออมสิน ต้องโทรศัพท์แจ้งให้ผู้บังคับบัญชาทราบ

ต่อมา ส.ต.อ.ปัญญา ได้เริ่มคบกับ น.ส.หญิง ไม่ทราบนามสกุล ซึ่งทำงานเป็นพนักงานร้านคาราโอเกะ จากการตรวจสอบประวัติ น.ส.หญิง เคยเป็นแฟนกับ นายเดย์ (ไม่ทราบนามสกุล) ผู้ต้องหาคดียาเสพติด ซึ่งขณะนี้ถูกจำคุกอยู่ที่เรือนจำจังหวัดหนองบัวลำภู

ทั้งนี้ เมื่อ ส.ต.อ.ปัญญา คบกับ น.ส.หญิง มักพาเพื่อนมามั่วสุมดื่มสุรา และส่งเสียงดัง ที่ห้องพักข้าราชการตำรวจเป็นประจำ เป็นที่เดือดร้อนรำคาญ แก่ข้าราชการตำรวจและชาวบ้านที่อยู่ใกล้เคียง ซึ่งเมื่อเมาสุราแล้ว ส.ต.อ.ปัญญา จะชอบนำอาวุธปืนมายิง ทำให้ไม่มีคนกล้าเข้าไปยุ่งเกี่ยว และเคยนำอาวุธปืนไปยิงสุนัขของประชาชน จนต้องมีข้าราชการตำรวจไปไกล่เกลี่ยให้ไม่ดำเนินคดี

กระทั่งเดือน กรกฎาคม 2564 ส.ต.อ.ปัญญา ได้มั่วสุมดื่มสุราในห้องพัก ส่งเสียงดังรบกวน และได้มีเพื่อนตำรวจไปตักเตือน แต่ ส.ต.อ.ปัญญา กลับด่าทอด้วยถ้อยคำหยาบคาย และเข้ามาทำร้ายร่างกาย จนเป็นเหตุให้ทะเลาะวิวาทกัน และผู้บังคับบัญชาได้เรียกตัวมาทำทัณฑ์บนไว้

โดย พ.ต.อ.สุวัฒชัย มะลิทอง ผกก.สภ.นาวัง ในขณะนั้น ได้เรียกเจ้าตัวมาสอบถาม และเจ้าตัวได้ยอมรับว่าได้เสพสารเสพติดตั้งแต่ตอนเรียนมัธยมแล้ว และรับปากกับผู้บังคับบัญชาว่าจะเลิกยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด จึงได้ยึดอาวุธปืนประจำกายของ ส.ต.อ.ปัญญา ไว้ เพื่อป้องกันการก่อเหตุร้ายต่างๆ

ซึ่ง สภ.นาวัง ได้ดำเนินการตามนโยบายของผู้บังคับบัญชา ตามโครงการตำรวจสีขาว ไม่ไห้ข้าราชการตำรวจเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด แต่ยังได้รับรายงานว่า ส.ต.อ.ปัญญา ยังมีพฤติการณ์เกี่ยวข้องกับยาเสพติด จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ และต่อมาวันที่ 20 มกราคม 65 ชุดสืบสวน กก.สส.ภ.จว.หนองบัวลำภู ได้เข้าตรวจค้นจับกุมปรากฏหลักฐานตามบันทึกจับกุม ในชั้นจับกุมและชั้นสอบสวน ส.ต.อ.ปัญญา ให้การรับสารภาพ

เมื่อถูกจับกุมได้ซักถาม ส.ต.อ.ปัญญา ได้ให้ถ้อยคำว่า “สูบยาบ้ามาตั้งนานแล้ว เมื่อก่อนมียาบ้าเป็นร้อยๆเม็ด ไม่เห็นมีใครมาจับกุม” อย่างไรก็ตาม ส.ต.อ.ปัญญา รับสารภาพว่ายาบ้าของกลางที่ชุดจับกุมพบเป็นของตน โดยได้รับมาจากอดีตตำรวจนายหนึ่ง ซึ่งถูกไล่ออกจากราชการแล้ว เมื่อ ส.ต.อ.ปัญญา ถูกจับกุมและย้ายออกจากบ้านพักแล้วข้าราชการตำรวจ สภ.นาวัง รู้สึกผ่อนคลาย และทำงานโดยไม่มีความหวาดระแวงต่อเพื่อนร่วมงาน

ขอบคุณข้อมูล : Drama-addict