เปลี่ยนใจ… “ผบ.พล.พัฒนา 1” เผยศูนย์ปฏิบัติธรรมสถานวิโมกสิวาลัย ขอเปลี่ยนยื่นเช่าที่ดิน ตั้งเป็นมูลนิธิฯแทน ลั่นไม่ดำเนินคดีอาญา เหตุหวั่นกระทบชาวบ้าน



  • จ่อส่งหนังสือแจ้งศูนย์ปฏิบัติธรรมฯ ไปดำเนินการให้ถูกต้องตามกฎหมาย ภายใน 30 วัน
  • ลั่นเป็นหน้าที่กรมธนารักษ์ เรียกร้องค่าเสียหาย เนื่องจากทางศูนย์ปฏิบัติธรรมฯ เพิ่งขอเปลี่ยนวัตถุประสงค์การเช่า
  • เผยเตรียมเร่งประชาสัมพันธ์ ให้ชาวบ้านมายื่นเช่าตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป

พล.ต.มานิต ศิริรัตนากูล ผู้บัญชาการกองพลพัฒนาที่ 1 (ผบ.พล.พัฒนา 1) กล่าวถึงความคืบหน้าในการดำเนินการกับศูนย์ปฏิบัติธรรมสถานวิโมกสิวาลัย สาขาวัดท่าไม้ อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี ว่า ตอนนี้ในขั้นต้นทางศูนย์ปฏิบัติธรรมสถานวิโมกสิวาลัย ได้เปลี่ยนวัตถุประสงค์การยื่นเช่าที่ดิน ซึ่งเป็นพื้นที่ราชพัสดุของกรมธนารักษ์ ที่มอบหมายให้กองพลพัฒนาที่ 1 กองทัพบก ทำหน้าที่รับผิดชอบดูแล โดยขอเปลี่ยนจากวัตถุประสงค์การเช่าจากเดิม ที่จดทะเบียนว่าจะทำเป็นพื้นที่วัด มาเป็นพื้นที่ตั้งมูลนิธิฯแทน

ทั้งนี้ เมื่อวานนี้ (22 มี.ค.65) ทางกองพลพัฒนาที่ 1 ได้แจ้งด้วยวาจากับทางศูนย์ปฏิบัติธรรมสถานวิโมกสิวาลัยไปแล้วว่า ให้ดำเนินการตามขั้นตอน และหลังจากนี้จะมีหนังสือแจ้งตามไปเป็นลายลักษณ์อักษรอีกครั้ง เพื่อให้ศูนย์ปฏิบัติธรรมสถานวิโมกสิวาลัย ไปดำเนินการให้ถูกต้องตามขั้นตอนปฏิบัติและกฎหมาย ในเรื่องของการขอยื่นเช่าพื้นที่ภายในระยะเวลา 30 วัน

“ส่วนการดำเนินการก่อนหน้านี้ ที่ตอนแรกขอยื่นจดทะเบียนเช่าพื้นที่เพื่อทำเป็นวัด แต่กลับมาทำเป็นศูนย์ปฏิบัติธรรมนั้น ทางกรมธนารักษ์ในฐานะเจ้าของพื้นที่จะต้องไปดำเนินการเรียกร้องค่าเสียหาย ตั้งแต่ปี 2551 จนถึงปัจจุบันเนื่องจากศูนย์ปฏิบัติธรรมสถานวิโมกสิวาลัยเพิ่งจะขอเปลี่ยนวัตถุประสงค์การเช่าพื้นที่เป็นการจัดตั้งมูลนิธิฯเมื่อวันที่21 มี.ค.65 ที่ผ่านมา กรมธนารักษ์ถือเป็นผู้ที่ได้รับความเสียหาย จึงต้องดำเนินการเรียกค่าเสียหาย ในส่วนของกองพลพัฒนาที่ 1 กองทัพบก มีหน้าที่ดำเนินการให้ศูนย์ปฏิบัติธรรมสถานวิโมกสิวาลัยปฏิบัติตามเงื่อนไขเท่านั้น” พล.ต.มานิต กล่าว

ทั้งนี้เมื่อถามว่า จะมีการแจ้งความเพื่อดำเนินคดีอาญากับศูนย์ปฏิบัติธรรมสถานวิโมกสิวาลัยหรือไม่ พล.ต.มานิตกล่าวว่า เรื่องนี้ทางอธิบดีกรมธนารักษ์ได้พูดชัดเจนไปแล้วว่า พื้นที่ดังกล่าวนอกจากเป็นศูนย์ปฏิบัติธรรมสถานวิโมกสิวาลัย สาขาวัดท่าไม้แล้ว ยังมีชาวบ้านใช้พื้นที่ปลูกบ้านเพื่ออยู่อาศัย ซึ่งยังไม่ได้มีการยื่นเรื่องเพื่อขอเช่าพื้นที่อีกหลายราย 

ดังนั้นเราต้องเร่งประชาสัมพันธ์ให้ชาวบ้านมายื่นเช่าตามขั้นตอนกฎหมาย เพราะหากเราแจ้งความดำเนินคดีกับศูนย์ปฏิบัติธรรมสถานวิโมกสิวาลัย สาขาวัดท่าไม้แล้ว ก็ต้องดำเนินการกับชาวบ้านด้วย เนื่องจากไม่สามารถเลือกปฏิบัติได้

“เราก็เห็นใจชาวบ้าน หากมียื่นเช่าตามกฎหมายแล้วก็จะได้รับการคุ้มครองดูแลจากรัฐบาล หากเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น เช่น ภัยพิบัติต่างๆ อย่างไรก็ตามในพื้นที่ อ.สวนผึ้ง เนื้อที่ประมาณ 500,000 ไร่ ขึ้นทะเบียนที่ราชพัสดุโดยมีการแบ่งพื้นที่ดูแลระหว่างกรมการทหารช่าง และกองพลพัฒนาที่ 1 ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่เขา และมีพื้นที่ราบเพียง 50,000 ไร่ซึ่งส่วนใหญ่ได้แบ่งเป็นพื้นที่ฝึกทางทหาร และที่ตั้งของโครงการอุทยานธรรมชาติวิทยา ตามพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี อีกส่วนหนึ่งกรมธนารักษ์ได้แบ่งพื้นที่ให้ชาวบ้าน และหน่วยงานอื่นๆได้เช่า” พล.ต.มานิต กล่าว