- ให้นำเทคโนโลยีและงานวิจัยมาใช้พัฒนาการเกษตร
- ใช้การตลาดนำการเกษตรกร
- “ประภัตร”ชี้ปีนี้ไม่ต้องประกันรายได้ปลูกข้าว เพราะราคาสูงมาก
นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์ พร้อมด้วย 3 รมช.เกษตรและสหกรณ์ ได้แก่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า น.ส.มนัญญา ไทยเศรษฐ์ และนายประภัตร โพธสุธน ได้ประชุมเพื่อมอบนโยบายและแนวทางการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2563 กับหัวหน้าส่วนราชการของกระทรวงเกษตรฯ ที่กรมชลประทาน สามเสน กรุงเทพฯ โดยนายเฉลิมชัย เปิดเผยว่า ต้องการส่งเสริมการนำเทคโนโลยีและงานวิจัยมาใช้ให้มากที่สุดเพื่อเพิ่มผลผลิตของเกษตรกร พร้อมกับให้ส่วนราชการดูเรื่องของจัดทำงบประมาณให้สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล รวมทั้งเสนอใช้งบประมาณกลาง รายการสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินและจำเป็นในการแก้ปัญหาให้เกษตรกร เช่น งบประมาณที่จะนำมาใช้ในตามนโยบายประกันรายได้เกษตรกร ได้หารือเบื้องต้นกับกระทรวงพาณิชย์ ว่าจะใช้ประมาณ 16,000-17,000 ล้านบาท สำหรับพืชทั้งหมด เช่น ยางพาราเกษตรกรต้องมีรายได้ไม่ต่ำกว่า ก.ก.ละ 60 บาท ถ้าตำกว่าจะต้องมีรายได้ส่วนต่างที่รัฐจะมอบให้
สำหรับแนวทางการทำงานของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ทุกหน่วยงานมีภารกิจที่จะส่งเสริมด้วยกันคือ1.ให้ทุกหน่วยงานบูรณาการการทำงานร่วมกันกับรัฐมนตรีทั้ง 4 คน เพื่อร่วมทำงานด้วยกันไปข้างหน้าให้สอดรับกับกระทรวงอื่น เพื่อให้งานเดินหน้าได้ 2.ให้ปฏิรูปการผลิตภายใต้การตลาดนำการเกษตร ต้องประสานกระทรวงพาณิชย์ เพื่อให้เกษตรกรรู้ล่วงหน้า เพื่อให้สามารถบริหารจัดการ ปัญหาอุปสรรคได้ 3.ส่งเสริมเกษตรอินทรีย์ เน้นเรื่องคุณภาพ ลดค้นทุนการผลิต เพิ่มมูลค่าเพิ่มนำนวัตกรรม งานวิจัยเข้ามาช่วย สร้างมูลค่ายกระดับคุณภาพผลผลิตสินค้าเกษตร 4.ทำงานเชิงรุกในเรื่องของภัยแล้ง น้ำท่วม และบริหารจัดการน้ำทั้งระบบเพราะน้ำคือชีวิต โดยกรมชลประทานต้องบูรณาการทำงานกับกรมพัฒนาที่ดิน และขอฝากการเพิ่มพื้นที่เก็บกักน้ำ ในกรณีที่แหล่งน้ำขนาดใหญ่มีการต่อต้าน ก็เปลี่ยนเป็นแหล่งน้ำขนาดเล็ก ที่สำคัญการปฏิบัติงานของข้าราชการ โดยขอให้เป้าหมาย ยึดประโยชน์ของเกษตรกรเป็นหลัก และให้เกษตรกรสามารถเข้าถึงบริการของภาครัฐ
ด้านนายประภัตร กล่าวว่า นโยบายของนายเฉลิมชัย พูดชัดเจนว่า แม้จะมีการแบ่งงานให้ รมช.เกษตรฯแล้วก็ตาม แต่ให้อำนาจ รมช.เกษตรฯเรียกหน่วยงานภายในกระทรวง แม่ไม่ใช่กรมที่ดูแลโดยตรง แต่สามารถเรียกมาให้ข้อมูลหรือไปตรวจเยี่ยมได้ สำหรับความเสียหายของนาข้าวที่เกิดจากภัยแล้งและฝนทิ้งช่วง ล่าสุดเมื่อมีพายุวิภาเข้ามาได้ช่วยให้ความเสียหายมีไม่ถึง 1 ล้านไร่แล้ว แต่ถ้าหากจากวันนี้ไปอีก 30 วัน ไม่มีฝนตกลงมาอีกเลยจะเกิดความเสียหายของนาข้าวเป็น 10 ล้านไร่ ทั้งนี้เรื่องของการประกันรายได้เกษตรกรในปีนี้เรื่องของข้างคงไม่มี เพราะข้าวปีนี้ราคาสูงมาก
ด้าน ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า การทำงานจากนี้ไปจะยึดหลักบูรณาการ และเน้นย้ำให้มีส่วนร่วม แม้แต่ละพรรคการเมืองจะมีนโยบายหาเสียงที่แตกต่างกัน แต่การทำงานจากนี้จะถึงตรงนโยบายของรัฐบาลเป็นหลักเพราะถือว่าได้นำนโยบายของแต่ละพรรคมารวมเป็นนโยบายรัฐบาลแล้ว
