เงินเฟ้อเดือนก.ย.พุ่งพรวด 1.68% หลังราคาน้ำมันทะยาน

.ประกอบกับสิ้นสุดมาตรการลดค่าน้ำ-ค่าไฟฟ้า

.สนค.ปรับเป้าเงินเฟ้อทั้งปีใหม่โต 0.8-1.2% จากเดิม 0.7-1.7%

.หลังคาดราคาน้ำมันยังขึ้นต่อและรัฐไม่มีมาตรการลดค่าครองชีพ

นายวิชานัน นิวาตจินดา รองผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) เปิดเผยถึงดัชนีราคาผู้บริโภค (เงินเฟ้อทั่วไป) เดือนก.ย.64 ว่า เท่ากับ 101.21 เทียบกับเดือนส.ค.64 เพิ่มขึ้น 1.59% ส่วนเทียบเดือนก.ย.63 เพิ่มขึ้น 1.68% ขยายตัวอีกครั้งหลังจากติดลบ 0.02% ในเดือนส.ค.64 ขณะที่เงินเฟ้อเฉลี่ย 9 เดือน (ม.ค.-ก.ย.) ปี 64 เพิ่มขึ้น 0.83% สำหรับเงินเฟ้อพื้นฐาน ที่หักอาหารสดและพลังงานที่มีความผันผวนด้านราคาออกจากการคำนวณ พบว่า ดัชนีอยู่ที่ 100.59 เพิ่มขึ้น 0.16% เมื่อเทียบกับเดือนส.ค.64 และเพิ่มขึ้น 0.19% เมื่อเทียบกับเดือนก.ย.63 ส่วนเฉลี่ย 9 เดือน เพิ่มขึ้น 0.23%

สาเหตุที่ทำให้เงินเฟ้อเดือนก.ย.64 เพิ่มขึ้น เป็นผลจากราคาขายปลีกน้ำมันเชื้อเพลิงยังสูงขึ้นต่อเนื่อง โดยสูงถึง 32.44% ประกอบกับ การสิ้นสุดลงของมาตรการช่วยเหลือค่าครองชีพของรัฐบาลตั้งแต่เดือนส.ค.64 ทั้งการลดค่ากระแสไฟฟ้าและค่าน้ำประปา รวมถึงราคาไข่และผลิตภัณฑ์นม เครื่องประกอบอาหาร อาหารบริโภคใน-นอกบ้านสูงขึ้น ส่วนปัจจัยทอนเงินเฟ้อไม่ให้สูงขึ้นมาก คือ ราคาอาหารสดทรงตัว โดยเฉพาะข้าวสารเจ้า ข้าวสารเหนียว เนื้อสุกร ไก่สด ผัก-ผลไม้สด เครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ ค่าเทอม ที่เป็นผลจากมาตรการของรัฐที่ช่วยลดค่าเทอม ฯลฯ

 สำหรับเดือนก.ย.64 มีสินค้าที่ปรับขึ้นราคา 183 รายการ เช่น น้ำมันเชื้อเพลิง เม็ดพลาสติก ฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ ผลปาล์มสด น้ำมันปาล์ม มันสำปะหลัง ผลิตภัณฑ์จากมันสำปะหลัง น้ำตาลทราย ผลิตภัณฑ์เหล็ก เป็นต้น สินค้าราคาลดลง 92 รายการ เช่น ข้าวเปลือก ข้าวสาร สุกร ไก่ ผัก ผลไม้ มะพร้าวผล ทองคำ เสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย และไม่เปลี่ยนแปลง 226 รายการ 

“เดือนก.ย. เงินเฟ้อสูงขึ้นจากราคาน้ำมันเป็นหลัก คาดว่า ช่วง 3 เดือนที่เหลือของปีนี้ ราคาน้ำมันจะยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ส่งผลให้สนค.ปรับคาดการณ์เงินเฟ้อทั้งปีใหม่เป็นขยายตัว 0.8-1.2% หรือมีค่ากลางที่ 1% บวกลบ 0.2% ส่วนการขึ้นภาษีบุหรี่ น้ำท่วมและเทศกาลกินเจ ที่ทำให้ราคาผัก ผลไม้เพิ่มขึ้น และราคาพลังงานที่ยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง แม้รัฐมีอุดหนุนราคาน้ำมันดีเซล แต่ไม่มีมาตรการอุดหนุนเบนซิน รวมถึงไม่มีมาตรการรลดค่าครองชีพ ทั้งลดค่าน้ำ ค่าไฟฟ้าต่ออีก คาดจะทำให้เงินเฟ้อเดือนต.ค.เพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 1% และทั้งไตรมาส 4 ปีนี้ น่าจะเพิ่มได้ 1.4-1.8%” 

นายวิชานัน กล่าวว่า ราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้น คาดจะทำให้เงินเฟ้อปรับขึ้นอย่างต่อเนื่องไปจนถึงอย่างน้อยเดือนมี.ค.65 จากนั้นอิทธิพลของราคาน้ำมันต่อเงินเฟ้อจะลดลง เพราะปี 64 ราคาน้ำมันเริ่มเพิ่มขึ้นตั้งแต่เดือนเม.ย. ถ้าเดือนเม.ย.65 ราคาน้ำมันปรับขึ้นมาใกล้เคียง หรือเท่ากับราคาเดือนเม.ย.64 จะไม่ทำให้เงินเฟ้อเพิ่มขึ้นแล้ว แต่อาจจะลดลงด้วย ถ้าราคาน้ำมันลดลง และภาวะเศรษฐกิจดีขึ้น 

ส่วนการปรับคาดการณ์เงินเฟ้อปีนี้ใหม่เป็น 0.8-1.2% จากเดิมคาด 0.7-1.7% มีค่ากลางอยู่ที่ 1.2% นั้นอยู่ภายใต้สมมติฐาน การขยายตัวทางเศรษฐกิจ (จีดีพี) 0.7-1.2% ราคาน้ำมันดิบดูไบ เฉลี่ย 65-70 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล และค่าเงินบาท 31.5-32.5 บาทต่อเหรียญฯ