เคาะแผนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์แห่งชาติระยะที่ 2

  • ต่อจากเฟสแรกบังคับใช้ 5 ปีตั้งแต่ปี 66-70
  • ตั้งเป้าเพิ่มยอดค้าออนไลน์เป็น 7.1 ล้านล้านบาทในปี 70
  • เพิ่มสัดส่วนมูลค่าส่งออกผ่านค้าออนไลน์เป็น 20%

นายสรรเสริญ สมะลาภา ผู้ช่วยรมว.พาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ ที่มีตัวแทนจากหน่วยงานภาครัฐ และภาคเอกชนร่วมด้วยกว่า 30 หน่วยงานว่า ที่ประชุมได้เห็นชอบจัดทำแผนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ของชาติ ระยะที่ 2 (ปี 66-70) ต่อเนื่องจากระยะที่ 1 (ปี 64-65) โดยตั้งเป้าหมายเพิ่มมูลค่าพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ภายในประเทศให้มีได้เป็น 7.1 ล้านล้านบาท ภายในปี 70 และสัดส่วนมูลค่าสินค้าส่งออกที่ค้าขายผ่านตลาดพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ให้อยู่ที่ 20% ภายในปี 70 เพื่อให้พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ของไทยเติบโตทั้งภายในและระหว่างประเทศ

สำหรับ (ร่าง) แผนปฏิบัติการด้านการพัฒนาพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ ระยะที่ 2 ได้กำหนดยุทธศาสตร์ 4 ด้าน ได้แก่1.การพัฒนากำลังคน พลเมือง และผู้ประกอบการดิจิทัล 2.การพัฒนาสภาพแวดล้อม และปัจจัยที่เอื้ออำนวยต่อการพัฒนาพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ 3.การยกระดับความเชื่อมั่นต่อการทำธุรกรรมในอุตสาหกรรมพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์และ 4.การพัฒนาแพลตฟอร์มออนไลน์ และส่งเสริมการค้าออนไลน์ทั้งภายในประเทศและข้ามพรมแดน 

“การค้าพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ มีบทบาทต่อชีวิตมากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะนับตั้งแต่มีการแพร่ระบาดของโควิด-19  ส่งผลให้การค้าขายออนไลน์เติบโตขึ้นอย่างก้าวกระโดด ในปี 66 คาดว่ามูลค่าการค้าพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ของไทยจะฟื้นตัวกลับขึ้นมาอีกครั้ง เพราะอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว และการขับเคลื่อนระบบนิเวศพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ในทุกภาคส่วนกลับเข้าสู่ภาวะปกติแบบเต็มรูปแบบ”

ทั้งนี้ ที่ผ่านมา นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ ได้กำหนดนโยบายเสริมสร้างขีดความสามารถทางการแข่งขันทางการค้าของผู้ประกอบการไทย ซึ่งรวมถึงเอสเอ็มอี วิสาหกิจชุมชน และเกษตรกร ด้วยการใช้ประโยชน์จากพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ เพื่อช่วยลดความเหลื่อมล้ำ พัฒนาเศรษฐกิจฐานราก ควบคู่ไปกับการผลักดันให้ไทยมีภาพลักษณ์ทางการค้าที่ดี เป็นที่เชื่อมั่นของผู้บริโภคทั่วโลก โดยการใช้ประโยชน์จากเศรษฐกิจแพลตฟอร์มเช่น ส่งเสริมการขยายตลาดสินค้ากลุ่มบีซีจี (เศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว) และการเจรจาการค้าออนไลน์