เกษียณสุขกับกองทุนRMF

คราวที่แล้ว พูดถึงประโยชน์และความสำคัญของการออมเงินผ่านกองทุนสำรองเลี้ยงชีพที่ถือเป็นการออมที่สำคัญและจำเป็นที่สุดของมนุษย์เงินเดือน เพราะเป็นการออมเงินระยะยาวเพื่อใช้ยามเกษียณ!!

โดย 3 หลักสำคัญของกองทุนสำรองเลี้ยงชีพคือ 1.ต้องตัดใจหักเงินสะสมเข้ากองทุนสูงสุด 15% ของเงินเดือน  2.เลือกแผนการลงทุนที่เหมาะสมกับตัวเอง  3.ปรับแผนการลงทุนตามอายุ สถานการณ์ และเวลาในการลงทุน เพื่อให้ได้เงินออมและผลตอบแทนก้อนสุดท้ายไว้ใช้ในยามเกษียณมากที่สุด!!

แต่สำหรับหลายคนที่นายจ้างไม่มีกองทุนสำรองเลี้ยงชีพเป็นสวัสดิการให้พนักงานยิ่งต้องรีบหารีบเก็บรีบออมมากขึ้น!! 

โชคดีที่ยังมีกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพหรือกองทุน RMF สนับสนุนให้คนไทยเก็บออมระยะยาวเพื่อใช้จ่ายยามเกษียณคล้ายกองทุนสำรองเลี้ยงชีพแต่กองนี้เราต้องออมเองไม่มีนายจ้างใจดีร่วมสมทบเงินให้!! 

ปัจจุบัน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม (บลจ.) ได้ออกกองทุน RMF จำนวนมาก แต่ละกองทุนก็มีนโยบายการลงทุนที่หลากหลาย บริหารโดยผู้จัดการกองทุนที่เป็นนักบริหารเงินมืออาชีพ เพื่อให้สอดคล้องกับผลตอบแทนและความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนแต่ละคนสามารถเลือกรับได้  มีตั้งแต่ความเสี่ยงต่ำไปจนถึงเสี่ยงสูง  ทำให้โอกาสในการรับผลตอบแทนในระยะยาวก็แตกต่างกันออกไป  

แต่สิ่งสำคัญคือต้องมีวินัยในการออมตั้งหลักไว้เลยว่าจะต้องซื้อหน่วยลงทุนทุกปี  ซึ่งกองทุน RMF นี้  จะขายคืนหน่วยลงทุนได้ก็ต่อเมื่อผู้ลงทุนมีอายุไม่ต่ำกว่า 55 ปีและลงทุนมาแล้วไม่น้อยกว่า 5 ปีนับตั้งแต่วันที่ซื้อหน่วยลงทุนครั้งแรก 

ซึ่งถือเป็นข้อดีเพราะเป็นการบังคับให้เราออมระยะยาวเพื่อให้บรรลุเป้าหมายการออมและการลงทุนเพื่อไว้ใช้จ่ายยามเกษียณนั่นเอง!!

นอกจากนี้ กองทุน RMF จะไม่มีการจ่ายเงินปันผลในระหว่างการลงทุน  โดยผลตอบแทนหรือเงินปันผลที่ได้ จะนำไปลงทุนต่อเพื่อให้เกิดผลตอบแทนทบต้น-ทบดอก เพื่อสุดท้ายแล้ว จะได้เงินลงทุนและผลตอบแทนก้อนสุดท้ายที่มากที่สุดให้เรานั่นเอง

ถามว่ากองทุนนี้เหมาะสมกับใคร!!?  ตอบได้ทันทีเลยว่าเหมาะสมกับทุกคนทุกเพศทุกวัยที่เป็นผู้มีรายได้ทั้งคนทำงานที่มีอาชีพอิสระหรือมนุษย์เงินเดือนที่แม้จะมีเงินกองทุนสำรองเลี้ยงชีพอยู่แล้วยังออมเพิ่มผ่านกองทุน RMF นี้ได้แถมยังได้สิทธิประโยชน์ทางภาษีเพิ่มด้วย

อย่าลืมว่า ผลการสำรวจของธนาคารแห่งประเทศไทยและสำนักงานสถิติแห่งชาติพบว่า คนไทยมีเงินออมไม่เพียงพอเพื่อใช้ชีวิตในยามเกษียณ  โดยเกือบ 40% หลังเกษียณไม่มีเงินออม  ส่วนผู้ที่มีเงินออม ก็พบว่ามีการออมน้อยมาก จนไม่พอใช้ยามเกษียณ 

พอเจาะลึกๆลงไปก็พบว่าผู้ที่มีเงินออมในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพออมน้อยและออมต่ำมากโดยหักเงินสะสมเข้ากองทุนเพียงขั้นต่ำเท่านั้น  จึงทำให้คุณภาพชีวิตของคนไทยในยามเกษียณไม่ได้สุขสบายมากนักและอาจเป็นภาระลูกหลานในอนาคต

หากต้องการความรู้เรื่องการวางแผนการเงินยามเกษียณเพิ่มเติม “คุณนายพารวย” จะชวนไปงานสัมมนาออนไลน์กับตลาดหลักทรัพย์ฯ 21 มิ.ย.นี้  กูรู “วิโรจน์ ตั้งเจริญ” นักวางแผนการเงินและวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิ จะเปิดหลักสูตร “วางแผนเกษียณ สไตล์มนุษย์เงินเดือน” รีบเข้าไปลงทะเบียนที่ www.set.or.th และกดไปที่หัวข้อ “ห้องเรียนนักลงทุน” แล้วเราจะเกษียณสุขไปด้วยกัน!!

ขอบคุณที่มา หน้าเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ขอบคุณภาพ จาก Pixabay