เกษตรฯ เล็งขึ้นทะเบียนแรงงานรับจ้างเกี่ยวข้าว-ไถนา-หว่านปุ๋ย ป้องกันโดนโก่งราคา



  • สร้างมาตรฐานตรวจสอบย้อนกลับสินค้าได้
  • หวังให้ผู้บริโภคมั่นใจในสินค้าของไทย

นายฉันทานนท์ วรรณเขจร เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.)เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 ส่งผลให้ภาคบริการด้านการเกษตรปี 2563 ติดลบ 1.5% กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เตรียมพร้อมเพื่อรับการเปลี่ยนแปลงในอนาคต โดยเตรียมปรับโครงสร้าง บริการด้านการเกษตร จากการใช้แรงงานคน หันมาใช้เทคโนโลยีมากขึ้น

ทั้งนี้ จากแรงงานด้านการเกษตร หากไม่รวมบริการด้านการเกษตร ที่รับจ้างในแรงงาน เบื้องต้น ประมาณจากภาคเกษตรทั่วประเทศมีประมาณ 8 ล้านครัวเรือน ตามจำนวนครัวเรือนเกษตรกรทั่วประเทศ และหากรวมแรงงานต่างชาติ ที่เข้ามารับจ้าง ทำเกษตร อาทิ ทำงานในสวนกล้วยไม้ ทำประมง ในเรือประมง เป็นต้นอีกประมาณ 4 ล้านคน

นอกจากนี้เกษตรกรไทยเข้าสู่สังคมสูงวัย จำนวนแรงงาน และเกษตรกรก็ลดปริมาณลง กระทรวงเกษตร จึงต้องดำเนินการ ให้มีอาชีพบริการด้านการเกษตร อย่างถูกต้องอยู่ในระบบ จึงต้องมีการขึ้นทะเบียน ตามประเภทการทำเกษตร มีการกำหนด อัตราค่าจ้าง ซึ่งคำนวณจากต้นทุนที่เกิดขึ้นจริง เพื่อให้เกิดมาตรฐาน ไม่มีการโก่งราคาจากแรงงาน หรือผู้รับจ้างกรณีแรงงาน มีน้อย และไม่มีการกดราคาจากผู้จ้าง กรณีมีแรงงานจำนวนมาก

“บริการด้านการเกษตร มีอัตราที่ลดลง เนื่องจากเกิดการขาดแคลนแรงงาน เกษตรมีทั่วประเทศ เช่น เกี่ยวข้าว ไถนา แต่บางจังหวัดมีน้อย บางจังหวัดมีมาก ที่สุดในอนาคตต้องมีการนำเครื่องจักกลด้านการเกษตรมาใช้ อาทิ โดรนฉีดพ่นปุ๋ย ยาฆ่าแมลง เกษตรกรสมัยเกี่ยวอาจทำไม่ได้ จึงต้องมีมืออาชีพดำเนินการให้ ผ่าน บริการด้านการเกษตรประจำตำบล ประจำอำเภอ ที่มีเกษตรตำบลและอำเภอประจำอยู่”

ส่วนแนวโน้มอาชีพบริการด้านการเกษตรต้องเพิ่มขึ้น เพราะต้องอาศัย คนที่มีความชำนาญ รัฐบาลพยายามสนับสนุนให้มีการทำการเกษตรแปลงใหญ่ จึงเลี่ยงไม่ได้ที่ต้องใช้เครื่องจักรการเกษตรมาช่วย อาชีพ ไถพรวนดิน โดยใช้เครื่องจักร ต้องอบรมการใช้เครื่องจักร อาชีพเกี่ยวข้าวด้วยเครื่องจักร ต้องอบรมการใช้เครื่องจักรเกี่ยวข้าว อาชีพหว่านปุ๋ยเคมี โดยใช้เครื่องจักร ก็ต้องอบรมการใช้เครื่องพ่น หว่านปุ๋ย เป็นต้น ดังนั้นอาชีพบริการด้านการเกษตรเหล่านี้จึงจำเป็นต้องมีใบอนุญาต

นายฉันทานนท์ กล่าวว่า ภาคเกษตรต้องปรับตัวเพื่อสร้างมาตรฐาน เพราะสินค้าไทยหลายตัว เช่น ข้าว สินค้าประมง เป็นต้น มีการส่งออก กระทรวงเกษตรฯจึงดำเนินการตรวจ และสร้างมาตรฐานให้กับสินค้า ทั้งในแง่ผลผลิต ที่ต้องมีมาตรฐาน ตรวจสอบย้อนกลับได้ และแรงงาน ต้องมีการตรวจสอบ ว่ามีสุขภาพดีไม่เป็นแหล่งแพร่เชื้อโรคไปยังสินค้าต่างๆ เพื่อให้ผู้บริโภคมั่นใจในสินค้าของไทย