เกษตรจับมือญี่ปุ่นทำโครงการแปรรูปสาหร่ายเป็นน้ำมันชีวภาพและผลิตภัณฑ์มูลค่าสูง

เกษตรจับมือญี่ปุ่นทำโครงการแปรรูปสาหร่ายเป็นน้ำมันชีวภาพและผลิตภัณฑ์มูลค่าสูง

  • สานฝัน“สาหร่าย” พืชเศรษฐกิจตัวใหม่
  • ดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ได้มากกว่าต้นไม้หลายเท่า

นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เปิดเผยว่า ในการประชุมโครงการผลิตน้ำมันจากสาหร่ายและแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์มูลค่าสูงโดยมีผู้เข้าร่วมประชุมประกอบด้วยดร.อังศุธร มหิทธิกุล ผู้จัดการสถาบันนวัตกรรมและบ่มเพาะธุรกิจ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) นายณัฐพล วชิรโรจน์ สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) นางสาวมนทกานติ ท้ามติ้น ผอ.ศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบนอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จ.จันทบุรี ผู้แทนกรมประมงพลเรือเอก ดร.สมัย ใจอินทร์ อดีตผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษกองทัพเรือและกรรมการมูลนิธิสถาบันพลังงานทางเลือกแห่งประเทศไทย นางสาวสภาวรรณ พลบุตร ผู้แทนมูลนิธิเวิลด์วิว ไคลเมท(Worldview Climate Foundation, Thailand) นายโชติ พึงเจริญพงศ์ คณะทำงานที่ปรึกษารัฐมนตรีเกษตรฯ นายมาซาฮิโร คาบาชิมา (Mr. Masahiro Kabashima)ผู้แทนบริษัทชิโตเซะผู้ผลิตน้ำมันจากสาหร่ายรายแรกของประเทศญี่ปุ่น

โดยที่ประชุมได้ร่วมหารือความร่วมมือโครงการผลิตน้ำมันจากสาหร่าย และผลิตภัณฑ์จากสาหร่ายสู่เกษตรมูลค่าสูง ทั้งนี้ ผู้แทนบริษัทชิโตเซะผู้ผลิตน้ำมันจากสาหร่ายรายแรกของประเทศญี่ปุ่นยินดีที่จะสนับสนุนความรู้และประสบการณ์ของบริษัทที่ได้วิจัยพัฒนาการเพาะเลี้ยงสาหร่ายผลิตเป็นน้ำมันรวมทั้งการแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆมากว่า10ปีและพร้อมจะมาลงทุนในประเทศไทยโดยการสนับสนุนของรัฐบาลญี่ปุ่น

นายอลงกรณ์กล่าวว่า นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์มีนโยบายส่งเสริมสาหร่ายเป็นพืชเศรษฐกิจตัวใหม่ กรมประมงจึงดำเนินการรวบรวมผลงานวิจัยและพัฒนาสาหร่ายและเริ่มสนับสนุนให้เกษตรกรและภาคเอกชนเพาะเลี้ยงสาหร่ายเพื่อทดแทนการนำเข้าจากต่างประเทศมาใช้ในการบริโภค อุตสาหกรรมอาหารและอุตสาหกรรมอื่นๆ รวมทั้งการผลิตเป็นน้ำมันชีวภาพ นอกจากนี้ ตนยังได้ประชุมหารือกับสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยขอให้นำสาหร่ายที่เพาะเลี้ยงในประเทศใช้ทดแทนการนำเข้าจากต่างประเทศ

นอกจากนี้ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด ได้พัฒนาสาหร่ายเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆเช่นเวชสำอางค์และอาหารเสริม ส่วนบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)ร่วมกับสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (Thailand Institute of Scientific and Technological Research : TISTR)จัดตั้งศูนย์ความเป็นเลิศด้านสาหร่าย(Algal Excellent Center- ALEC)ทำการวิจัยและพัฒนาสาหร่ายน้ำจืดเป็นน้ำมันแต่ยังมีต้นทุนสูง หากได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้สร้างความร่วมมืออย่างใกล้ชิดหรือร่วมลงทุนวิจัยพัฒนาต่อยอดเทคโนโลยีกับทางญี่ปุ่นซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาสาหร่ายสู่เกษตรมูลค่าสูงได้อย่างเป็นรูปธรรมโดยเร็ว

อีกทั้งสาหร่ายยังเป็นพืชที่ดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ได้มากกว่าต้นไม้หลายเท่าช่วยลดก๊าซเรือนกระจกลดโลกร้อนสร้างคาร์บอนเครดิตให้กับประเทศไทยจึงได้เชิญมูลนิธิเวิลด์วิว ไคลเมท(Worldview Climate Foundation, Thailand)และมูลนิธิสถาบันพลังงานทางเลือกแห่งประเทศไทยมาช่วยขับเคลื่อนโครงการพัฒนาสาหร่ายและมอบหมายให้กรมประมงจัดประชุมเชิงปฏิบัติการเรื่องการพัฒนาสายพันธุ์และแปรรูปสาหร่ายเป็นน้ำมันชีวภาพและเกษตรมูลค่าสูงในเร็วๆนี้เพื่อเร่งการนำสาหร่ายมาสร้างอาชีพและใช้ประโยชน์ในด้านต่างๆ