

วานนี้ (4 พ.ย. 63) สมเด็จอัครมหาเสนาบดีเดโช ฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา กล่าวว่า เขาได้เริ่มกักกันตนเองเป็นเวลา 14 วันแล้ว หลังจากปีเตอร์ ซียาร์โต รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศและการค้าของฮังการี ซึ่งเพิ่งเสร็จสิ้นการเดินทางเยือนกัมพูชา มีผลตรวจโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) เป็นบวก
โเยฮุนเซนได้ประกาศผ่านบัญชีทางการบนเฟซบุ๊กว่า ซียาร์โตมีผลตรวจโรคโควิด-19 เป็นบวกเมื่อช่วงเย็นวันอังคาร (3 พ.ย. 63) หลังเดินทางออกจากกัมพูชามาถึงประเทศไทย ในภารกิจเดินทางเยือนเอเชีย
ทั้งนี้ในรายงานได้ระบุว่า ซียาร์โต ซึ่งเยือนกัมพูชาเป็นเวลาหนึ่งวันที่ 3 พฤศจิกายน 2563 ได้พบปะแบบแยกรายบุคคลกับฮุนเซน, ปรัก สุคน รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศ, พาน สรศักดิ์ รัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์, แวง สาคอน รัฐมนตรีกระทรวงเกษตร และโส ยารา สมาชิกรัฐสภา
ฮุนเซน กล่าวว่า เขาและบุนรานี ผู้เป็นภริยา ตลอดจนเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยและคนขับรถ รวม 18 คน ได้รับการตรวจโรคโควิด-19 ครั้งแรก ซึ่งทุกคนล้วนมีผลตรวจเป็นลบ
“แม้ผมจะไม่ได้ติดโรคโควิด-19 แต่เพื่อความปลอดภัยของทุกคน แพทย์ได้สั่งให้ผมเข้ารับการกักกัน 14 วัน (ที่บ้าน) และผมไม่สามารถพบภรรยา ลูกๆ และหลานๆ ของผมได้ในช่วงเวลาดังกล่าว”
นายกรัฐมนตรีกัมพูชา กล่าวเสริมว่า
จะไม่สามารถเข้าร่วมกิจกรรมสำคัญหลายอย่างในช่วง 14 วันนี้ รวมถึงวันประกาศอิสรภาพในวันที่ 9 พฤศจิกายน 2563 และการประชุมสุดยอดทางออนไลน์ของสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) ครั้งที่ 37
“ขอให้ผู้นำรัฐ/รัฐบาลของอาเซียนและพันธมิตรที่เกี่ยวข้องทั้งหมดเข้าใจว่าผมไม่สามารถเข้าร่วมการประชุมสุดยอดครั้งนี้ได้ แต่ผมจะส่งผู้แทนไปเข้าร่วมตั้งแต่วันที่ 12-15 พฤศจิกายน 2563” ฮุนเซนระบุเช่นนี้
อนึ่ง คำแถลงจากกระทรวงการต่างประเทศและความร่วมมือระหว่างประเทศของกัมพูชาเมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน 2563 ระบุว่า รัฐบาลตัดสินใจอนุญาตให้ผู้นำและเจ้าหน้าที่ทุกคนที่มีประวัติติดต่อโดยตรงกับคณะผู้แทนของฮังการีเข้ารับการตรวจโรคโควิด-19 และเข้าสู่การกักกันตัว 14 วันแล้ว พร้อมเสริมว่าซียาร์โตและคณะผู้แทนของเขา มีผลตรวจโรคโควิด-19 เป็นลบ ก่อนเดินทางออกจากบูดาเปสต์มายังกัมพูชา