S&P คาดการณ์เศรษฐกิจโลกปีนี้ขยายตัวต่ำกว่า 3% แม้จีนจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว แต่ยุโรปกลับกลายเป็นศูนย์กลางการแพร่ระบาดใหม่แทนจีน โดยล่าสุด มีประชากรโลกติดไวรัสโควิด-19 แล้ว 219,058 คน อิตาลีนำโด่ง มีผู้ติดเชื้อสูงสุด 35,713 คน จนนักลงทุนต้องประกาศปิดโรงงานในยุโรป
.จีนมั่นใจเศรษฐกิจจะกลับสู่ภาวะปกติใน Q2
คณะกรรมการเพื่อการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติของจีน (NDRC) แสดงความเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจจีนจะกลับสู่ภาวะปกติในไตรมาส 2 ปีนี้ เนื่องจากรัฐบาลได้ออกมาตรการสนับสนุนด้านต่างๆ ซึ่งจะช่วยลดผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยเจ้าหน้าที่ NDRC เผยด้วยว่า จีนมีเครื่องมือด้านนโยบายมากเพียงพอและจะเปิดเผยมาตรการต่างๆที่เกี่ยวข้องในช่วงเวลาที่เหมาะสม
ทั้งนี้ล่าสุดคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติของจีน (NHC) แถลงเมื่อวันจันทร์ที่ 16 มี.ค.ว่ามีผู้เสียชีวิตจากโรคปอดอักเสบที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในจีน เพิ่มขึ้นอีก 13 รายส่งผลให้ยอดรวมผู้เสียชีวิตทั่วประเทศจีนเพิ่มเป็น 3,226 ราย ส่วนจำนวนผู้ติดเชื้อทั่วประเทศเพิ่มขึ้นอีก 21 ราย ส่งผลให้ยอดรวมผู้ติดเชื้อทั่วประเทศเพิ่มขึ้นเป็น 81,155 ราย ขณะที่วันพฤหัสที่ 19 มี.ค.มีผู้ติดเชื้อในโลกรวม 219,058 คน ที่อิตาลีสูงสุด 35,713 คน ประเทศไทย 212 คน โดยมียอดเสียชีวิต 8,939 คน โดยในจีนไม่มีผู้เสียชีวิตแล้ว
.“โตโยต้า” สั่งปิดโรงงานในยุโรป 6 ปท.
โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ป ได้ทยอยปิดโรงงานผลิตรถยนต์และชิ้นส่วนในยุโรปเพิ่มอีก 4 ประเทศ เนื่องจากไวรัสโควิด-19 แพร่ระบาดหนักส่งผลให้โตโยต้าต้องสั่งปิดโรงงานรวมทั้งสิ้น 6 ประเทศ บริษัทยังระงับสายการผลิตรถยนต์และชิ้นส่วนรถยนต์ที่โรงงานในอังกฤษ ฝรั่งเศส และโปแลนด์ด้วย ส่วนโรงงานในสาธารณรัฐเช็กและตุรกี จะเริ่มปิดตามมา ก่อนหน้านี้โตโยต้าได้สั่งปิดโรงงานในฝรั่งเศส และโปรตุเกสเป็นการชั่วคราวแล้ว และยังไม่มีกำหนดเปิดทำการ โดยจะพิจารณาจากสถานการณ์แต่ละประเทศเป็นหลัก ทั้งนี้โตโยต้ามียอดขายรถยนต์ 1.05 ล้านคันในยุโรปในปีที่ผ่าน เพิ่มขึ้น 4.6% โดยได้รับแรงหนุนจากอุปสงค์ที่แข็งแกร่งสำหรับรถยนต์ไฮบริด
.แบงก์ชาติออสซี่หั่นดอกเบี้ยฉุกเฉิน 0.25%
ธนาคารกลางออสเตรเลีย (RBA) ประกาศลดดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% สู่ระดับ 0.25% จากเดิมอยู่ที่ 0.50% ในการประชุมฉุกเฉินช่วงกลางสัปดาห์ แม้ RBA เพิ่งปรับลดดอกเบี้ยลง 0.25% สู่ระดับ 0.5% แต่การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ยังรุนแรงต่อ RBA ยังได้ประกาศปล่อยเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำสำหรับธนาคาร โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนการปล่อยสินเชื่อให้กับธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลาง พร้อมกลับเข้า ซื้อพันธบัตรรัฐบาลในตลาดรองด้วย
.“จีเอ็ม-ฟอร์ด” ปิดรง.ในสหรัฐ-เม็กซิโก-แคนาดา
บริษัผลิตรถยนต์ 2 แห่งในเมืองดีทรอยต์ของสหรัฐฯ ประกาศปิดโรงงานแล้วเพื่อยับยั้งการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 หลังถูกกดดันจากสหภาพแรงงานรถยนต์สหรัฐฯ (UAW) ซึ่งเป็นตัวแทนลูกจ้างรายชั่วโมงราว150,000 คน ที่ทำงานในโรงงานเหล่านั้น ฟอร์ดมอเตอร์และเจเนอรัลมอเตอร์ (จีเอ็ม) ยืนยันการตัดสินใจสั่งปิดโรงงานในสหรัฐแล้ว รวมถึงโรงงานในแคนาดาและเม็กซิโกด้วย ขณะที่คาดว่า เฟียต ไครส เลอร์ออโตโมบิลส์ จะประกาศยืนยันการตัดสินใจตามมา
.เฟดออกโรงรับประกันสภาพคล่องกองทุนรวม
ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) สาขาบอสตัน เเผย เฟดจะให้การสนับสนุนด้านสินเชื่อแก่ภาคครัวเรือนและภาคธุรกิจ โดยรับประกันว่าตลาดเงินขนาด 3.8 ล้านล้านเหรียญ จะสามารถขายพันธบัตรสหรัฐฯ และสินทรัพย์คุณภาพสูงอื่นๆ ได้ด้วยมูลค่าเต็มเพื่อเพิ่มสภาพคล่องหากนักลงทุนต้องการไถ่ถอนเพื่อถือเงินสด
.เวิลด์แบงก์ประกาศเพิ่มเงินช่วยเหลือ
ธนาคารโลกประกาศเพิ่มเงินช่วยเหลือเร่งด่วนวงเงินรวม 14,000 ล้านเหรียญ ให้กับบริษัทและประเทศที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยธนาคารโลกระบุในแถลงการณ์ว่ามาตรการนี้จะสร้างความแข็งแกร่งให้กับระบบการเตรียมพร้อมด้านสาธารณสุขระดับประเทศ ซึ่งรวมถึงการควบคุมโรค,การวินิจฉัย และการรักษา รวมถึงการสนับสนุนภาคเอกชน เพื่อช่วยเหลือเร่งด่วนกับธุรกิจต่างๆและพนักงานเพื่อลดผลกระทบทางการเงินและเศรษฐกิจจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ขณะที่บรรษัทการเงินระหว่างประเทศ(IFC) ซึ่งเป็นหน่วยงานของธนาคารกลางที่ปล่อยเงินกู้ให้กับภาคเอกชน ยังได้เพิ่มเงินทุนช่วยเหลืออีก 2,000 ล้านเหรียญ ส่งผลให้ยอดรวมเงินทุนช่วยเหลือของ IFC ที่เกี่ยวข้องกับโควิด-19 รวมเป็น 8,000 ล้านเหรียญ
.“ทรัมป์” นอนมาชิงเก้าอี้ ปธน.สหรัฐอีก
คณะกรรมการแห่งชาติของพรรคริพับลิกัน ทวีตข้อความระบุว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้เป็นตัวแทนพรรคในการลงชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐในปีนี้หลังจากที่เขาได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งแบบไพรมารีในรัฐฟลอริดา คณะหาเสียงของทรัมป์ได้รับเสียงสนับสนุนจากคณะผู้แทน 1,330 คน ซึ่งสูงเกินกว่า 1,276 คนที่เป็นเกณฑ์ในการได้รับเลือกเป็นตัวแทนพรรค ทั้งนี้คาดว่าปธน.ทรัมป์จะได้รับการยืนยันเป็นตัวแทนพรรคอย่างเป็นทางการ ในการประชุมระดับประเทศของพรรคริพับลิกัน ที่เมืองชาร์ลล็อตต์รัฐนอร์ธแคโรไลนา ในเดือน ส.ค.นี้แน่นอน
.”มนูชิน” เตือนอัตราว่างงานสหรัฐอาจแตะ 20%
สำนักข่าวบลูมเบิร์ก รายงานว่า นายสตีเวน มนูชิน รมว.คลังสหรัฐฯ ได้กล่าวกับวุฒิสมาชิกพรรคริพับลิกัน ว่าอัตราว่างงานในสหรัฐมีแนวโน้มพุ่งขึ้นแตะระดับ 20% แน่ หากรัฐบาลไม่บังคับใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจหลังได้รับผลกระทบอย่างหนักจากไวรัสโควิด-19
การแสดงความเห็นของนายมนูชิน มีขึ้นในขณะที่เขาพยายามเรียกร้องให้วุฒิสมาชิกพรรครีพับลิกันสนับสนุนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 1 ล้านล้านเหรียญ เพื่อเยียวยาเศรษฐกิจในช่วงเวลาที่ไวรัสโควิด-19 แพร่ระบาดอย่างหนัก ขณะที่ “เอสแอนด์พี” ฟันธงเศรษฐกิจเอเชียแปซิฟิกจะเข้าสู่ภาวะถดถอยจากผลกระทบโควิด-19 โดยทรุดตัวลงต่ำกว่าระดับ 3 %
