กระทรวงการต่างประเทศอังกฤษเผยเมื่อวันที่ 5 พฤษภาคมว่า จำนวนผู้เสียชีวิตจากผู้ป่วยที่ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในประเทศเพิ่มเป็น 29,427 ศพ ทำให้กลายเป็นประเทศที่มีผู้เสียชีวิตเป็นอันดับหนึ่งในยุโรปขึ้นแซงหน้าประเทศอิตาลี
ทั้งนี้อิตาลี เป็นประเทศแรกในยุโรปที่ใช้มาตรการปิดเมืองหลังจากเจอวิกฤตระบาดหนักที่สุด และปัจจุบันผู้ป่วยใหม่ลดลงมาก ทำให้เริ่มผ่อนคลายมาตรการลง ผู้คน 4.4 ล้านคนสามารถกลับไปทำงานได้
มีรายงานว่า “บอริส จอห์นสัน” นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ยังคงทักทายกับประชาชนด้วยการ “จับมือ” ต่อไป แม้ว่า ทาง Scientific Advisory Group for Emergencies (SAGE) ซึ่งเป็นกลุ่มที่ปรึกษาทางวิทยาศาสตร์สำหรับกรณีฉุกเฉิน ได้มีเอกสารคำแนะนำให้ยุติการจับมือและการกอดสำหรับรัฐบาล
ในวันที่ 3 มีนาคม ทางกลุ่มนักวิทยาศาสตร์ SPI-B group ชี้ว่าคำแนะนำดังกล่าวเพื่อต้องการให้มีสุขอนามัยที่ดีเพื่อเป็นการป้องกันการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19
ซึ่งในวันเดียวกัน นายกรัฐมนตรีพูดว่า “ผมกำลังจับมือกัน” และวันต่อไปที่โรงพยาบาลเขาไปจับมือกับทุกคน ที่บ้านถนนดาวน์นิ่งได้มีการแถลงข่าวเขายังคงจับมือกับบุคคลที่เข้าพบเขา
ต่อมาในสัปดาห์นั้นนายกฯ ได้จับมือกับผู้จัดรายการ Morning Morning “ฟิลิปส์ สคูฟิลด์” แม้ว่าผู้จัดดังกล่าวจะเก็บมือไว้ในช่วงสัมภาษณ์
มีภาพนายกรัฐมนตรีอังกฤษได้จับมือกับรักบี้ทีมชาติอังกฤษอย่าง “โอเว่น ฟาร์เรล” จากนั้นเขาก็ถ่ายภาพจับมือกับนักมวย “แอนโทนี่ โจชัว” เมื่อวันที่ 9 มีนาคม
โฆษกของนายกรัฐมนตรีอังกฤษ กล่าวว่า “จอห์นสัน” ไม่ได้รับรู้ว่ามีเอกสารแนะนำดังกล่าวในช่วงเวลานั้น เขาไม่ได้เห็นคำแนะนำดังกล่าว
“นายกรัฐมนตรี มีความชัดเจนมาก เขามีขั้นตอนป้องกันไว้อย่างรวมถึงการล้างมือบ่อยๆ เมื่อมีคำแนะนำเรื่องการเว้นระยะห่างทางสังคม วิธีการของนายกรัฐมนตรีก็เปลี่ยนไป”
ที่มา: news.sky.com
