ออสเตรเลียเตรียมทดลองให้ต่างชาติกักตัวในที่พัก 7 วัน

  • แทนกักตัวในโรงแรมที่ทางการเตรียมไว้ให้
  • หวังอยู่ร่วมกับโควิด-19 ให้ได้ในอนาคต
  • กีวีเลื่อนทำแทรเวิล บับเบิลต่ออีก 8 สัปดาห์

เว็บไซต์แชนแนลนิวส์เอเชีย รายงานว่า ออสเตรเลียเดินหน้าแผนการเปิดประเทศ โดยเตรียมทดลองให้นักเดินทางต่างชาติ กักตัวในที่พักอาศัยแทนการกักตัวที่โรงแรม ที่ทางการเตรียมไว้ และใช้แอปพลิเคชันติดตามอาการ 

นายสกอตต์ มอร์ริสัน นายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย เตรียมเดินหน้าแผนการทดลองให้ต่างชาติ ที่เดินทางเข้าประเทศผ่านสนามบินซิดนีย์ กักตัวภายในที่พักอาศัยเป็นเวลา 7 วัน แทนการกักตัวในโรงแรมที่รัฐบาลรับรอง และเจ้าหน้าที่จะใช้แอปพลิเคชัน และเทคโนโลยีตรวจจับใบหน้า เพื่อติดตามอาการ ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งของแผนการเปิดประเทศของออสเตรเลีย และเป็นแนวทางในการอยู่ร่วมกับโควิด-19 ในอนาคต โดยหลังจากนี้ คณะรัฐมนตรีเตรียมหารือประเด็นวัคซีนพาสปอร์ต และการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ต่อไป 

ทั้งนี้ ออสเตรเลียปิดพรมแดนตั้งแต่เดือนมี.ค.63 เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยอนุญาตให้พลเมืองออสเตรเลีย ผู้มีถิ่นพำนักถาวรในประเทศ และผู้ที่ได้รับการยกเว้น ต้องกักตัวในโรงแรมเป็นเวลา 2 สัปดาห์ ก่อนเดินทางเข้าประเทศ  

อย่างไรก็ตาม รัฐบาลนิวซีแลนด์ ได้ประกาศเลื่อนการระงับโครงการ “Travel Bubble” กับออสเตรเลีย ซึ่งเป็นโครงการอนุญาตให้มีการเดินทางระหว่าง 2 ประเทศโดยไม่ต้องกักตัวผู้เดินทาง ออกไปอีก 8 สัปดาห์นับตั้งแต่วันนี้ (17 ก.ย.) เพราะทั้ง 2 ประเทศยังมีการระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์เดลตา หลังจากเมื่อวันที่ 23 ก.ค.ที่ผ่านมา ทั้ง 2 ประเทศได้ประกาศระงับโครงการดังกล่าวมาแล้วครั้งหนึ่ง และจะสิ้นสุดการระงับโครงการวันที่ 24 ก.ย.นี้

ทั้งนี้ นิวซีแลนด์ได้ตัดสินใจระงับโครงการ Travel Bubble ทันทีหลังพบผู้ติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์เดลตาจากออสเตรเลีย ซึ่งนำไปสู่การแพร่ระบาดในเมืองโอ๊คแลนด์ และเป็นสาเหตุให้รัฐบาลออสเตรเลีย ประกาศล็อกดาวน์ทั่วประเทศเมื่อเดือนส.ค. โดยขณะนี้โอ๊คแลนด์ยังคงอยู่ภายใต้มาตรการล็อกดาวน์ ขณะที่เมืองอื่นๆ เริ่มเปิดแล้ว 

ด้านนายคริส ฮิปกินส์ รัฐมนตรีที่รับผิดชอบด้านการรับมือกับวิกฤตโควิด-19 ของนิวซีแลนด์กล่าวว่า การกลับมาเปิดโครงการ Travel Bubble ร่วมกับออสเตรเลียในขณะนี้ยังคงมีความเสี่ยง และรัฐบาลจะทบทวนการตัดสินใจดังกล่าวอีกครั้งในช่วงกลางถึงปลายเดือนพ.ย.นี้