ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังเกิดเหตุ และมีการแจ้งผ่านสื่อมวลชน กรณีเมื่อคืนเวลา 00:00 – 02:00 น. ประชาชนจำนวนมากตลอดแนวทางพิเศษเฉลิมมหานคร และทางพิเศษศรีรัช พบกลุ่มรถยนต์ขับซิ่งตามกันบนทางด่วนกว่า 100 คัน โดยพบการรวมตัวกันหลายจุด อาทิ จุดพักรถประชาชื่น และจุดเว้าต่างๆตลอดเส้นทาง จากนั้นได้วิ่งตามกันด้วยความเร็วสูง มาเป็นกลุ่มๆรอบๆ ส่งเสียงดังไปทั่วใจกลางเมือง
ทั้งนี้ทาง จส.100 ได้ประสานข้อมูลให้ตำรวจ สน.ทางด่วน เข้าดำเนินการแล้ว และยังมีหลักฐานอีกเป็นจำนวนมากที่ประชาชนสแจ้งเข้ามา
นายสุรเชษฐ์ เหล่าพูลสุข ผู้ว่าการ การทางพิเศษแห่งประเทศไทย หรือ กทพ. เปิดเผยว่า ได้รับรายงานเรื่องดังกล่าวแล้ว โดยได้สั่งการให้ฝ่ายกฎหมายดำเนินการประสานงานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ หากพบกรณีดังกล่าวเกิดขึ้นอีก และมีการรายงานเข้ามา ให้มีการประสานงาน เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าจับกุม ที่ด่านทางลงปลายทางทุกแห่ง และขอให้มีการดำเนินคดีที่เกี่ยวข้องกับวินัยจราจรสูงสุด ในฐานะที่ กทพ.เป็นเจ้าของพื้นที่เขตทางบนทางด่วน
ทั้งนี้โทษที่เกี่ยวข้องกับวินัยการจราจรก็จะมีตั้งแต่การขับรถด้วยความเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด การขับรถก่อเหตุรำคาญเสียงดัง การแต่งรถไม่เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด เป็นต้น ซึ่งจะมีโทษปรับตาม พ.ร.บ.จรจรฯ ทั้งหมดอยู่แล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับโทษปรับทำผิด พ.ร.บ จราจรฯ ฉบับใหม่ ซึ่งมีการประกาศใช้ไปเมื่อ 26 สิงหาคม 2563 มีการเพิ่มอัตราโทษอัตราข้อหาเทียบปรับที่สำคัญ ได้แก่ ไม่มีใบอนุญาตขับขี่อยู่กับตัวหรือไม่อาจแสดงต่อเจ้าพนักงานเมื่อขอตรวจ 200 บาทปรับไม่เกิน 1,000บาท ไม่สวมหมวกนิรภัย 400 บาทปรับไม่เกิน 500 บาท จอดรถในที่ห้ามจอด 400 บาทปรับไม่เกิน 500 บาท ขับรถเร็วเกินกฎหมายกำหนด 500 บาทปรับไม่เกิน 1,000 บาท ฝ่าไฟแดง 500 บาทปรับไม่เกิน 1,000 บาท ฝ่าฝืนเครื่องหมายจราจรที่ปรากฏในทาง 500บทปรับไม่เกิน 1,000 บาทใช้โทรศัพท์ในขณะขับรถ 500 บาทปรับตั้งแต่ 400 – 1,000 บาท ใช้รถควันดำเกินกำหนด ปรับ 1,000 บาท
