“อนุทิน” ลุ้น ฉีดวัคซีน ครม. 16 มีนา หลังข้อมูลนานาชาติ เผย วัคซีนแอสตราฯ ปลอดภัย

เมื่อวันที่ 15 มี.ค. ที่ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยแผนการฉีดวัคซีนโควิด 19 ให้คณะรัฐมนตรีว่า ที่ต้องเข้าใจก่อนคือเรื่องของความกังวลต่อวัคซีนของแอสตราเซนนิกา ซึ่งประเทศไทยได้ชะลอการให้บริการ เพราะมีข้อสงสัยเรื่องผลกระทบ จากนั้น ได้ประสานกับนานาชาติ เพื่อหาข้อเท็จจริง ได้รับคำยืนยันว่า การเกิดลิ่มเลือดที่เป็นข่าวมาก่อนหน้านี้ ไม่เกี่ยวข้องกับวัคซีน และหลายชาติยังให้บริการวัคซีนตัวนี้ต่อไป ทางคณะแพทย์ จึงมีความเห็นเบื้องต้นว่า น่าจะให้บริการแก่คณะรัฐมนตรี ในวันที่ 16 มีนาคมนี้เลย แต่ก็ต้องขอรอข้อมูลยืนยันจากการประชุมก่อน

และถ้าหากต้องฉีด วางแผนไว้ว่า จะให้บริการที่ทำเนียบรัฐบาลเนื่องจากเกรงว่าหากให้มาที่โรงพยาบาลบําราศนราดูรจะเป็นการรบกวนประชาชนคนอื่นเนื่องจากคณะรัฐมนตรีที่เดินทางมานั้นจะต้องมีทีมผู้ติดตามเข้ามาอีกจำนวนมาก อย่างไรก็ตาม การดูแลจะใช้ห้องรับรอง 1 แห่งสำหรับสังเกตอาการ พร้อมอุปกรณ์การช่วยชีวิตเอาไว้รองรับ ขณะเดียวกันก็มีรถพยาบาลฉุกเฉินไว้รองรับ และจัดให้โรงพยาบาลราชวิถีเป็นสถานพยาบาลรับส่งต่อ

นายอนุทิน กล่าวว่า การฉีดวีคซีนของแอสตราฯ เราจะเริ่มฉีดในกลุ่มเสี่ยงตามเกณฑ์ก่อน จากนั้น เมื่อวัคซีนฯ เข้ามาจำนวนมาก ถึงจะเริ่มให้บริการแก่บุคคลทั่วไป นี่คืองานช้าง เพราะในอดีตการให้บริการวัคซีนของไทย มากที่สุด ที่เคยทำไว้คือ 10 ล้านโดส แต่นี่มากกว่านั้นหลายเท่า สำหรับประเทศไทย ไม่ได้ขาดแคลนวัคซีนฯ ในเดือนนี้ จะมีวัคซีนเข้ามาอีก 8 แสนโดส และจะเข้ามาอีก 1 ล้านโดสหลังจากนี้ ในช่วงกลางปี จะได้วัคซีนล็อตใหม่มาก และระหว่างที่รอวัคซีนฯล็อตใหญ่ ได้หารือกับผู้ผลิตหลายรายเพื่อให้ได้วัคซีนฯ เพิ่มเติมอีก 5 ล้านโดส ภายในเวลาที่กำหนดหรือ 2-3 เดือนนับจากนี้

สำหรับภาคเอกชนนั้น หากประสบความสำเร็จในการติดต่อประเทศผู้ผลิต และสามารถนำเข้ามาได้ ทางส่วนกลางก็พร้อมสนับสนุน แต่ปัจจุบันนี้ เป็นการให้บริการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ทางผู้ผลิต เน้นจำหน่ายให้รัฐบาลเป็นหลักก่อน แต่วันหนึ่ง เงื่อนไขตรงนี้เปลี่ยนไป เอกชน จะมีโอกาสนำวัคซีนฯ เข้ามาได้ง่ายขึ้น