“อนุทิน”ย้ำต้องให้ชัวร์ก่อนผ่อนคลายล็อกเฟส4หลังพบเชื้ออิมพอร์ตทุกวัน

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน จะหมดอายุสิ้นเดือน มิ.ย.จะมีการต่ออายุหรือไม่ ว่า ยังไม่ได้หารือกัน ส่วนเวลาที่เหมาะสมควรจะเป็นเมื่อไหร่นั้น ตอนนี้เราไม่มีผู้ติดเชื้อในประเทศมา 2 สัปดาห์กว่าแล้ว แต่เราก็ยังต้องระวังอยู่ สังเกตจากคนที่เดินทางมาจากต่างประเทศ ส่วนใหญ่จะมีผู้ติดเชื้อทุกเที่ยวบิน แสดงว่าการติดเชื้อในต่างประเทศยังมีอยู่ ดังนั้น ถ้าเราจะไปเปิดประเทศทันทีก็อาจจะยังไม่ปลอดภัยสำหรับในประเทศ ก็ต้องระวัง

เมื่อถามว่า แสดงว่าการผ่อนคลายเฟส 4 จะต้องสอดคล้องกับ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ด้วยใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ต้องสอดคล้องกัน ซึ่งรวมถึงโรงเรียนที่จะเปิดเทอมในเดือน ก.ค.นี้ด้วย ทุกอย่างต้องหารือกันด้วยเหตุและผล สำคัญที่สุดคือไม่ให้คนไทยติดเชื้อ โดยเฉพาะในเด็กต้องระวัง และเราต้องมั่นใจจริงๆ ว่าไม่มีการแพร่ระบาด อย่างน้อยการที่เราระมัดระวังมากๆ ส่งผลให้เห็นว่าประเทศไทยไม่มีการติดเชื้อ และหวังว่าสถานการณ์จะดีขึ้นไปเรื่อยๆ ไม่มีทางที่จะถอยหลังลงไป ยกเว้นจะมีซุปเปอร์สเปรดเดอร์ (การแพร่เชื้อโรคไปยังบุคคลอื่นจำนวนมาก) อีกครั้ง แบบนี้ต้องมาว่ากันใหม่ ซึ่งไม่น่าจะมี

เมื่อถามย้ำว่า แบบนี้กฎหมายต่างๆ ยังจำเป็นอยู่ใช้หรือไม่ในเรื่องของการบังคับใช้ นายอนุทิน กล่าวว่า ความจริงเราไม่เคยบังคับใช้ เพียงแต่ขอความร่วมมือ และประชาชนก็มีความเข้าใจต่ออันตรายของโรคนี้ จึงให้ความร่วมมือ เรื่องสุขภาพของคนไปบังคับกันไม่ได้ ความร่วมมือเท่านั้นเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด

เมื่อถามอีกว่า หากมีการยก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ก็ยังมี พ.ร.บ.ควบคุมโรค อยู่ใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า พ.ร.บ.ควบคุมโรค ยังไม่บูรณาการเท่า พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ซึ่งก็มีดี มีเสีย แต่การประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ครั้งนี้ ประชาชนให้ความร่วมมืออย่างดี แม้ว่าจะมีเคอร์ฟิว หรือจัดระเบียบอะไรต่างๆ ทุกคนให้ความร่วมมือดี โดยที่ไม่ต้องมีการบังคับอะไร