- เปิดช่องยืดระยะเวลาลงนามไฮสปีดเทรน 3 สนามบิน
- หลัง 7 พ.ย.หากทั้งสองฝ่ายยินยอม
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข เปิดเผยถึงการเลื่อนลงนามรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบินออกไปว่า เนื่องจากคณะกรรมการ (บอร์ด) ของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ลาออก ซึ่งเป็นการลาออกทั้งที่รู้ว่าจะมีการลงนามในรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ซึ่งตนให้สัมภาษณ์มาโดยตลอดว่าผู้ที่จะกำหนดวันที่จะลงนามในสัญญาได้แน่นอนคือ รฟท. แต่เมื่อขณะนี้ไม่มีบอร์ด รฟท.เราก็รีบเรียนนายกรัฐมยตรีต้องตั้งบอร์ดก่อน โดยรายชื่อได้มีการส่งไปยังสำนักงานคณะกรรมการรัฐวิสาหกิจ (สคร.)แล้ว
“การลาออกของบอร์ดรถไฟ ไม่ได้มีการกดดัน หรือบีบให้ลาออก มีแต่บีบให้อยู่ก่อน ผมถึงขนาดโทรไปหาทีละคนว่าอย่าเพิ่งออก และนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ก็รีบไปดูระเบียบเลยว่าต้องให้ รมว.คมนาคมอนุมัติก่อนหรือไม่ แต่พบว่าบอร์ดสามารถลาออกได้เองเลย ซึ่งบางคนก็ให้เหตุผลว่าต้องภารกิจในด้านอื่นๆ เหมือนที่บอกนั่นแหละว่าพระจะสึก คนจะคลอด บอร์ดจะออก ห้ามกันไม่ได้”
ผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีที่ยังไม่สามารถลงนามในสัญญารถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบินได้ภายในวันที่ 7 พ.ย.ซึ่งถือว่าเป็นวันที่สิ้นสุดการยืนระยะเวลาประมูล จะถือว่าสามารถยึดเงินประกันของเอกชนที่วางไว้ 2,000 ล้านบาทได้หรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่าต้องดูว่าในส่วนนี้ต้องดูว่าข้อกำหนดใน RFP กำหนดไว้ว่าอย่างไร หากภาครัฐมีความไม่พร้อมในการลงนามและสามารถเจรจาในการขอยืดระยะเวลาการลงนามในสัญญาออกไปได้ หากทั้งสองฝ่ายมีความเห็นตรงกัน แต่หาก รฟท.มีความพร้อมแล้วมีการตกลงวันที่จะเซ็นสัญญากันแล้ว พอถึงวันไม่มาเซ็นสัญญาก็สามารถที่จะพิจารณายึดเงินประกันได้
“ขณะนี้ยังถือว่าโครงการไม่ล่าช้าเพราะยังกำหนดวันเซ็นสัญญาไว้กับเอกชนก่อนวันที่ 7 พ.ย. แต่หากถึงวันนั้นแล้วยังไม่สามารถเซ็นสัญญาได้จะถือว่ามีความล่าช้า ซึ่งหากโครงการนี้ล่าช้าและไม่สามารถดำเนินการได้ตามกำหนดก็จะทำให้โครงการอีอีซีได้รับผลกระทบในเรื่องของความเชื่อมั่นด้วย”
