อธิบดีกรมทางหลวงลงพื้นที่เชียงใหม่-เชียงรายด่วนเร่งแก้สร้าง-ซ่อมถนนสะพานขาดให้ใช้ได้พรุ่งนี้เที่ยง

อธิบดีกรมทางหลวงลงพื้นที่เชียงใหม่-เชียงราย เร่งแก้ไขปัญหา ทางเบี่ยงจุดก่อสร้างสะพานขาดจากเหตุอุทกภัยน้ำป่าไหลหลาก พร้อมจะเร่งแก้ไขให้แล้วเสร็จเพื่ออำนวยความสะดวกให้ประชาชนได้กลับมาใช้เส้นทางได้เป็นปกติโดยเร็วที่สุด

นายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง(ทล.)เปิดเผยภายหลังลงพื้นที่เข้าตรวจสอบพร้อมให้คำแนะนำแนวทางการแก้ไขปัญหาในพื้นที่ โครงการก่อสร้างทางหลวงหมายเลข 118 สายเชียงใหม่ – เชียงรายว่า จากที่เกิดอุทกภัยน้ำป่าไหลหลากเป็นเหตุให้ทางเบี่ยงจุดก่อสร้างสะพานขาด 8 จุด โดยแบ่งพื้นที่ที่เสียหายอยู่ในพื้นที่จังหวัดเชียงราย อำเภอเวียงป่าเป้า ช่วง ดอยนางแก้ว-แม่สลวย จำนวน 2 จุด และพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ อำเภอดอยสะเก็ด ช่วง เชียงใหม่-ดอยนางแก้ว จำนวน 6 จุด ยืนยันว่ากรมทางหลวงจะแก้ไขให้แล้วเสร็จในวันนี้ (4ส.ค.)7 จุด และอีก 1 จุดที่จังหวัดเชียงรายที่ กม.32+941 ได้ทอดสะพานเบลีย์ซึ่งจะแล้วเสร็จในพรุ่งนี้ก่อนเที่ยง (5 ส.ค.63) โดยทางหลวงหมายเลข 118 สายเชียงใหม่ – เชียงราย ประชาชนสามารถกลับมาสัญจรได้ แต่เพื่อความปลอดภัยจึงขอความร่วมมือให้ใช้เส้นทางในช่วงกลางวันถึงช่วงเย็น ยังไม่ให้วิ่งในช่วงกลางคืนจนกว่าสถานการณ์จะกลับมาเป็นปกติเพื่อความปลอดภัยของประชาชน

นอกจากนี้ กรมทางหลวงยังได้ช่วยเคลื่อนย้ายประชาชนที่ได้รับผลประทบจากเหตุอุทกภัยในครั้งนี้ โดยประชาชนชุดสุดท้ายจำนวน 40 คนที่ตกค้างได้เคลื่อนย้ายออกจากพื้นที่เรียบร้อยแล้วเมื่อเวลา 12.30 น. พร้อมกันนี้ ได้สั่งการให้เตรียมพร้อมทั้งบุคลากรและเครื่องจักรตลอดเวลา 24 ชั่วโมงหากกรณีเกิดฝนตกหนัก น้ำป่าไหลแรง โดยให้เตรียมทอดสะพานเบลีย์ทันทีสำหรับบางจุดที่สุ่มเสี่ยงว่าถนนทางเบี่ยงบริเวณก่อสร้างสะพานจะขาดอีก อีกทั้งได้เน้นย้ำให้แขวงทางหลวงเชียงใหม่ที่ 1 และแขวงทางหลวงเชียงรายที่ 2 ซึ่งเป็นหน่วยงานในพื้นที่ ให้บริการช่วยเหลือประชาชนที่สัญจรไปมาอย่างดีที่สุดตามข้อสั่งการของนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม

กรมทางหลวง ต้องขออภัยในความไม่สะดวกมา ณ ที่นี้ และในช่วงฤดูฝนขอให้ผู้ใช้เส้นทางหลวงเดินทาง ด้วยความระมัดระวังเพื่อความปลอดภัย โดยขอให้ประชาชนปฏิบัติตามป้ายเตือน ป้ายแนะนำและคำแนะนำของเจ้าหน้าที่อย่างเคร่งครัด หากประชาชนต้องการสอบถามสภาพเส้นทาง สภาพการจราจร หรือต้องการความช่วยเหลือสามารถติดต่อได้ที่สำนักงานทางหลวง แขวงทางหลวง หมวดทางหลวงในพื้นที่ และสายด่วนกรมทางหลวง 1586 (โทรฟรีทุกเครือข่ายตลอด 24 ชั่วโมง)