ถือเป็นธรรมเนียมปฏิบัติเป็นประจำทุกปีที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยจะประกาศรายชื่อบริษัทจดทะเบียนไทยที่ได้รับคัดเลือกให้อยู่ในรายชื่อหุ้นยั่งยืน นับตั้งแต่เริ่มจัดทำ“รายชื่อหุ้นยั่งยืน” Thailand Sustainability Investment (THSI)เมื่อปี พ.ศ.2558
ถึงตอนนี้ ผู้ลงทุนและผู้คนทั่วไป น่าจะรู้จัก “หุ้นยั่งยืน” กันดีแล้วว่า เป็นหุ้นของบริษัทจดทะเบียนที่ดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม มีความรับผิดชอบต่อสังคม และมีการบริหารงานตามหลักบรรษัทภิบาล (Environmental, Social and Governance) เรียกย่อๆ ว่า ESG
ประกอบกับ แนวคิดการลงทุนอย่างยั่งยืน ได้เป็นกระแสหลักของการลงทุนของโลกยุคใหม่ ที่ผู้ลงทุน นอกจากจะมองเรื่องผลตอบแทนทางการเงินแล้ว ก็ให้ความสำคัญกับการเป็น หุ้นยั่งยืน ของบริษัทจดทะเบียนด้วย
ทั้งหมดนี้ ส่งผลให้ตัวผู้ประกอบการเอง ต้องเพิ่มน้ำหนัก ให้ความสำคัญกับเรื่อง ESG มากขึ้น เพื่อรักษาระดับความน่าเชื่อถือของบริษัทให้ได้รับการยอมรับ และเพิ่มความเชื่อมั่นของผู้ลงทุนที่มีต่อบริษัท อีกทั้งจะส่งผลดีต่อราคาหุ้นให้เติบโตอย่างแข็งแกร่ง ไม่ผันผวนง่าย
ทำให้ในปี 2565 มีบริษัทได้รับคัดเลือกให้อยู่ในรายชื่อหุ้นยั่งยืน THSI เพิ่มมากขึ้น ถึง 170 บริษัท จากเดิมมีจำนวน 144 บริษัท ในปี 2564
ภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์ฯ บอกว่า สิ่งนี้สะท้อนถึงการให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนของบริษัทจดทะเบียน ด้านผู้ลงทุนก็ตื่นตัวและลงทุนโดยใช้ข้อมูลด้าน ESG ประกอบการตัดสินใจลงทุน ควบคู่ไปกับข้อมูลผลประกอบการทางการเงิน
นอกจากนี้ ผู้ลงทุนสถาบัน โดยเฉพาะกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) ก็นำรายชื่อหุ้นยั่งยืน THSI ไปใช้ในการพิจารณาคัดเลือกหุ้นที่จะลงทุน นักวิเคราะห์การลงทุนยังนำปัจจัย ESG รวมถึงรายชื่อหุ้นยั่งยืน THSI ไปใช้ในการวิเคราะห์และให้คำแนะนำแก่ผู้ลงทุนผ่านบทวิเคราะห์หลักทรัพย์อีกด้วย
ซึ่งตลาดหลักทรัพย์ฯ ก็สนับสนุนให้บริษัทจดทะเบียน ดำเนินธุรกิจแบบมีความรับผิดชอบต่อผู้มีส่วนได้เสีย คำนึงถึง ESG เพื่อสร้างความเข้มแข็งและการเติบโตที่ยั่งยืน สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ “To Make the Capital Market ‘Work’ for Everyone” ของตลาดหลักทรัพย์ฯ
สำหรับปีนี้ หุ้นยั่งยืนเป็น บริษัทใน SET 157 บริษัท และ mai 13 บริษัท ด้านกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีจำนวนบริษัทจดทะเบียนในรายชื่อหุ้นยั่งยืน THSI สูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ กลุ่มบริการ, กลุ่มทรัพยากร และกลุ่มอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง โดยทั้งหมด มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด รวม 14 ล้านล้านบาท หรือเท่ากับ 72%
ผู้ลงทุน และผู้สนใจ สามารถติดตามข่าว และตรวจสอบรายชื่อหุ้นยั่งยืน เพื่อเป็นตัวช่วยในการค้นหาและเลือกลงทุน ได้ที่ www.setsustainability.com และตลาดหลักทรัพย์ฯ มีหลักสูตร “ESG วิถีใหม่ลงทุนอย่างยั่งยืน” เปิดให้เข้าไปเรียนผ่าน e-Learning โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ได้ที่นี่ ESG วิถีใหม่ลงทุนอย่างยั่งยืน