“หมอศิริราช” ชี้รัฐให้ข้อมูลสะเปะสะปะเกาไม่ถูกคัน โควิดระบาดไปทั่ว

วันที่ 24 เม.ย.2564 รศ.นพ.นิธิพัฒน์ เจียรกุล หัวหน้าสาขาวิชาโรคระบบการหายใจและวัณโรค ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กระบุ ถ้าจะรอถึงรอบโพสต์เจ็ดวันคงขาดดิ้นแดดายเป็นแน่แท้ สรรพสิ่งล้วนว่างเปล่า สูงสุดคืนสู่สามัญ ถ้อยแถลงที่ไร้แถลง

หากซื้อหวยก็คงถูกแหงแซะ ผ่านไปแค่ 6 วัน 18-23 เม.ย. ยอดใหม่ทั้งประเทศพุ่งพรวดมาแตะหนึ่งหมื่นพอดี โดยกทม.และปริมณฑลยังครองแชมป์กว่าหนึ่งในสาม นั่นหมายความถึงคำทำนายใกล้จะเป็นจริง ในเมื่อภาคประชาชนส่วนใหญ่พยายามร่วมมือกัน แต่ยังมีส่วนน้อยไม่ยอมหยุดนิ่ง สัปดาห์ที่ผ่านมาเริ่มเห็นผู้ป่วยจำนวนมากที่เก็บตัวอยู่บ้านแต่เผลอไปกินข้าวหรือซื้อของข้างนอกชั่วครั้งชั่วคราวก็ติดเชื้อ ผู้สูงอายุหรือผู้มีโรคเรื้อรังไม่ออกไปไหนแต่มีลูกหลานหรือคนรู้จักมาเยี่ยมมากราบพร้อมนำเชื้อมาฝาก เพื่อนร่วมงานเผลอพูดคุยเล่นหัวใกล้ชิดหรือกินอาหารร่วมกันโดยไม่ระวังก็ต้องไปป้ายจมูกและกักตัว และรูปแบบอื่นๆ อีกมากมายจนยากจะจาระไน ต่างกับสองระลอกก่อนที่ไม่ว่ายากดีมีจนล้วนไม่พ้นเชื้อร้ายที่มองไม่เห็นนี้

แน่นอนเมื่อฐานจำนวนผู้ป่วยรวมสะสมแต่ต้นเดือนข้ามหลักสองหมื่นโดยไม่ต้องออกแรงลุ้น ย่อมพบผู้ป่วยอาการรุนแรงมากขึ้นจนถึงขั้นวิกฤต ควบคู่กันไปคือกระแสดรามาในสังคม เป็นธรรมดายามที่ผู้คนมองหาที่พึ่งได้ไม่เด่นชัด เหลียวหาไปที่ส่วนหัวก็ดูแต่เหมือนจะหลงประเด็นจับต้นชนปลายกันไม่ถูกที่ถูกทาง การบริหารจัดการข้อมูลดูสะเปะสะปะไร้จุดหมาย (ต้องโทษกลุ่มคนชงด้วย) นำมาซึ่งการดำเนินงานที่แสนเงื่องหงอยเกาไม่ถูกที่คัน

อย่ากระนั้นเลยทุ่มเทให้กับงานดูแลผู้ป่วยโควิด-19 ที่เริ่มหลั่งไหลกันมาทุกสารทิศดีกว่า รอบนี้อาวุธดีพร้อมนึกว่าจะมีชัยไปกว่าครึ่ง แต่ศัตรูมีลูกเล่นหลากหลาย แถมโถมเข้ามาแบบไม่ให้ทันตั้งตัวติด ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปการรักษาระดับความสูญเสียร้ายแรงแบบกู่ไม่กลับที่ 0.3% คงจะยาก ว่าแล้วหันไปปลุกขวัญลูกทีมที่กำลังรับศึกหนักกันแบบไม่มีหลังพิงดีกว่า ควบคู่ไปกับการซักซ้อมเมื่อยามเข้าตาจนที่ไม่รู้จะไปบ่นกับใคร

ทำปัจจุบันให้ดีที่สุด