

- หวั่นดีมานด์ไม่คุ้มต้นทุนเพราะค่าใช้จ่ายส่งทดสอบค่อนข้างสูง
- ด้านกลุ่มเครื่องมือแพทย์ชี้ อย.ต้องกำกับมาตรฐานความปลอดภัย
นายอุดม เสถียรภาพงษ์ รองประธานกลุ่มอุตสาหกรรมไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์และโทรคมนาคม สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 9 ธ.ค.ที่ผ่านมา กลุ่มอุตสาหกรรมไฟฟ้าฯได้ประชุมหารือกับสมาชิกเพื่อเตรียมความพร้อมพัฒนาตู้แช่ ตู้เย็น สำหรับแช่วัคซีนโควิด-19 ตามมาตรฐานที่กำหนด โดยได้เชิญผู้แทนจากสถาบันไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ ภายใต้กระทรวงอุตสาหกรรม มาให้ความรู้เรื่องมาตรฐานการทดสอบ เช่น มาตรฐานด้านความปลอดภัย มาตรฐานด้านอุณหภูมิจะต้องอยู่ที่ 2-8 องศา รวมถึงเมื่อไฟดับ อุณหภูมิสามารถคงอยู่ที่ระดับเดิมได้ภายใน 4 ชม. เป็นต้น คาดว่าอีกไม่นานจะสามารถดำเนินการได้
“สมาชิกเห็นตรงกันว่า มีความสามารถที่จะผลิตตู้แช่วัคซีนได้ หลายบริษัทมีความสนใจ เพราะไม่ใช่เรื่องยากที่จะพัฒนาต่อยอดจากตู้เย็น ตู้แช่ที่ผลิตกันอยู่ในปัจจุบัน เพียงแต่ต้องปรับปรุง หรือเปลี่ยนบางชิ้นส่วน เพื่อให้ได้เกณฑ์อุณหภูมิตามที่ตู้แช่วัคซีนกำหนด จากนั้นต้องส่งทดสอบกับสถาบันไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ 1-2 รอบ คาดว่าจะเริ่มการหาชิ้นส่วน ทดสอบ จะใช้ระยะเวลาประมาณ 1 ปี จากนั้นจึงจะเริ่มผลิตเพื่อจำหน่ายได้”
อย่างไรก็ตาม แม้เอกชนจะพร้อมผลิตตู้แช่วัคซีน แต่หากความต้องการ หรือ ดีมานด์ยังไม่มากก็อาจจะไม่คุ้มกับต้นทุน ซึ่งจะมีทั้งค่าใช้จ่ายในการส่งทดสอบที่ค่อนข้างสูง ดังนั้น รัฐควรกระตุ้นดีมานด์เพื่อให้เกิดความมั่นใจ เช่น การลงนามความตกลง (MOU) กับทางกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าฯ เพื่อร่วมกันพัฒนาให้ชัดเจนว่า อีก 1 ปีข้างหน้า ต้องการตู้เเช่วัคซีนโควิด-19 ขั้นต่ำจำนวน 50 หรือ 100 ตู้ก่อน
หลังจากนั้นฝั่งผู้ผลิตจะมาระดมความเห็นร่วมกันเพื่อดำเนินการผลิตตามคำสั่งซื้อต่อไป ส่วนเรื่องมาตรฐานผลิตภัณ์อุตสาหกรรม (มอก.) ในปัจจุบันยังไม่ได้ครอบคลุมตู้แช่วัคซีนซึ่งเป็นสินค้าเฉพาะ ดังนั้น ขึ้นอยู่กับสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) จะออกมาตรฐานมาเพื่อการันตีความปลอดภัยอีกขั้นหนึ่งหรือไม่ ซึ่งก็สามารถทำได้
ขณะที่นายวินิจ ฤทธิ์ฉิ้ม ประธานกิตติมศักดิ์กลุ่มอุตสาหกรรมผู้ผลิตเครื่องมือแพทย์ ส.อ.ท. เปิดเผยว่า ตู้แช่วัคซีนปัจจุบันถือว่าเป็นส่วนหนึ่งในอุปกรณ์อุตสาหกรรมทางการแพทย์ โดยมีมาตรฐานสากลที่ทั่วโลกจะต้องได้รับการรับรอง เมื่อได้มาตรฐานสากลนี้แล้วก็ไม่จำเป็นที่จะต้องมีมาตรฐานอุตสาหกรรม (มอก.) แต่จำเป็นต้องได้รับการรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) จากกระทรวงสาธารณสุขก่อน ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ทำหน้าที่ควบคุม กำหนดหลักเกณฑ์คุณสมบัติของตู้แช่
ส่วนข้อมูลจากกลุ่มอุตสาหกรรมผู้ผลิตเครื่องมือแพทย์ระบุว่า คุณสมบัติเบื้องต้นสำหรับตู้เย็นเพื่อเเช่วัคซีนนั้น ถ้าเป็นตู้เย็นที่อยู่ในคลังของโรงพยาบาล ต้องเป็นชนิดฝาประตูทึบ มี 2 ประตูแยกช่องแช่แข็งและช่องแช่เย็น มีความจุอย่างน้อย 18 คิว เพื่อสต๊อกวัคซีนให้ลูกข่ายอย่างน้อย 1.5-2 เดือน
รวมทั้งต้องเผื่อพื้นที่สำหรับวัคซีนที่ใช้ในการรณรงค์ด้วย และที่สำคัญ ตู้เย็นจะต้องรักษาอุณหภูมิได้คงที่ตลอดปี และสามารถเก็บความเย็นได้นาน หากเกิดไฟฟ้าดับควรเก็บความเย็นได้อย่างน้อย 3 ชั่วโมง ส่วนอายุการใช้งานของตู้เย็นที่ใช้เก็บวัคซีนไม่ควรเกิน 10 ปี