ส่งออกไทยยังไปต่อ! ม.ค.65 ทะลุ 2.1 หมื่นล้านเหรียญฯ

  • ขยายตัวสูงถึง 8% เทียบเดือนม.ค.64 รับเศรษฐกิจโลกฟื้น
  • ถล่มยูเครนยังไม่กระทบการค้าโดยตรงยอมรับมีผลทางอ้อม
  • ทำราคาน้ำมันตลาดโลก-วัตถุดิบ-ขนส่งสินค้าทางเรือดพุ่ง

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ เปิดเผยถึงสถิติการค้าระหว่างประเทศของไทยว่า เดือนม.ค.65 การส่งออกมีมูลค่า 21,258.6 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 8% เมื่อเทียบเดือนมี.ค.64 คิดเป็นเงินบาทมูลค่า 708,312 ล้านบาท ถือว่ายังขยายตัวได้ดี เมื่อเทียบกับม.ค.64 ที่เพิ่มขึ้นเพียง 0.1% ส่วนการนำเข้ามีมูลค่า 23,785 ล้านเหรียญฯ เพิ่มขึ้น 20.5% โดยขาดดุลการค้า 2,526.4 ล้านเหรียญฯ ซึ่งเป็นผลมาจากการนำเข้าวัตถุดิบที่นำมาใช้ในการผลิต และการนำเข้าน้ำมันที่ราคาสูงขึ้นมาก

สาเหตุที่การส่งออกเพิ่มขึ้นมีปัจจัยสนับสนุน คือ การทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดระหว่างกระทรวงพาณิชย์กับภาคเอกชน ภาคการผลิตทั่วโลกยังขยายตัวจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก  การขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์ดีขึ้น รวมถึงยังได้รับผลดีจากการที่สหรัฐฯ ขยายเวลาทำการในวันหยุด และเพิ่มการทำงานในช่วงกลางคืน ทำให้การทำงานขนถ่ายสินค้าที่ท่าเรือคล่องตัวขึ้น และตู้คงค้างลดลง

สำหรับตลาดที่ขยายตัวสูงสุด 10 อันดับแรก ได้แก่ อินเดีย เพิ่ม 31.9%, รัสเซีย เพิ่ม 31.9%, สหราชอาณาจักร เพิ่ม 29.7%, เกาหลีใต้ เพิ่ม 26.8%, สหรัฐฯ เพิ่ม 24.1%, แคนาดา เพิ่ม 13.6%, อาเซียน 5 ประเทศ เพิ่ม 13.2%, จีน เพิ่ม 6.8%, ลาตินอเมริกา เพิ่ม 5.0% และสหภาพยุโรป เพิ่ม 1.4%          

ส่วนผลกระทบที่จากสถานการณ์รัสเซีย-ยูเครน ได้มอบหมายให้ปลัดกระทรวงพาณิชย์ประชุมร่วมกับภาคเอกชน เพื่อประเมินสถานการณ์ และผลกระทบที่จะมีต่อการค้าไทย ซึ่งพบว่า ผลกระทบทางตรง ยังไม่มี หรือถ้าจะมีก็ยังไม่มาก เพราะไทยส่งออกไปทั้ง 2 ประเทศน้อยมาก แต่เมื่อเจาะเป็นรายสินค้า มีผลกระทบต่อยางรถยนตร์ อาหารแปรรูป อัญมณี และเครื่องสำอาง ที่ส่งออกไปยังรัสเซียและยูเครน

ส่วนในอนาคต ประเมินว่า อาจกระทบต่อต้นทุนทำธุรกรรมทางการเงิน แต่ขณะนี้ยังไม่มี และจะมีผลกระทบต่อต้นทุนการขนส่งสินค้าทางเรือ หากราคาน้ำมันสูงขึ้นเรื่อยๆ และมีการปิดท่าเรือบางแห่งในรัสเซียและยูเครน เพราะการส่งสินค้าของไทยอาจต้องเปลี่ยนท่าเรือ

สำหรับผลกระทบทางอ้อม อาจมีเรื่องราคาพลังงาน ราคาวัตถุดิบต่างๆ ที่ไทยนำเข้าจาก 2 ประเทศ สูงขึ้นอย่างไรก็ตาม กระทรวงพาณิชย์ได้เตรียมมาตรการต่างๆ รองรับแล้ว โดยจะบุกตลาดอื่นทดแทน เช่น ตะวันออกกลาง แอฟริกา ลาตินอเมริกา, เตรียมส่งออกสินค้าไทยไปทดแทนสินค้ารัสเซีย ยูเครนในตลาดต่างๆ เช่น มันสำปะหลัง อาจส่งไปจีน แทนข้าวโพดของยูเครน หรือผลิตภัณฑ์ยางในสหรัฐฯ อาหารสำเร็จรูปส่งออกไปไปทั่วโลกเพื่อทดแทนสินค้าจากรัสเซีย ยูเครน

นายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ กล่าวถึงข้อเสนอของผู้ส่งออกที่เสนอให้ไทยเจรจากับจีน เพื่อให้เปิดเส้นทางขนส่งสินค้าทางทะเลไปยังประเทศต่างๆ หากรัสเซีย และยูเครนปิดท่าเรือ หรือปิดน่านน้ำว่า จีนเป็นสมาชิกองค์การการค้าโลก (ดับบลิวทีโอ) และดับบลิวทีโอมีกฎให้สมาชิกอำนวยความสะดวกในการขนส่งสินค้ารหว่างกัน เชื่อว่า จีนจะอำนวยความสะดวกให้อยู่แล้ว ส่วนการที่นานาชาติจะตัดรัสเซียออกจากระบบการโอนเงินระหว่างประเทศ (SWIFT) ต้องได้รับความเห็นชอบจากสมาชิก ที่มีกว่า 200 ประเทศก่อน ซึ่งที่ผ่านมา เคยตัดอิหร่านออกไปแล้ว แต่กรณีรัสเซีย ชาติยุโรปตะวันตกส่วนใหญ่ทำการค้ากับรัสเซีย ถ้าตัดรัสเซียออกจริง ก็จะได้รับผลกระทบตามไปด้วย