“สุริยะ” เสียงแข็ง แจงปม “คิงส์เกต” ไม่มีการยกทรัพยากรชาติแลกเปลี่ยนถอนฟ้อง



  • ไม่มีการแทรกแซงเร่งรัด
  • ไม่มีแลกเปลี่ยนกับการถอนฟ้องคดีแต่อย่างใด

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม  เปิดเผยว่าการเจรจาระหว่างไทยกับคิงส์เกต ฝ่ายไทยไม่ได้เป็นผู้เริ่มขอเจรจา แต่เป็นการแนะนำของคณะอนุญาโตตุลาการประหว่างการไต่สวนข้อพิพาทที่ประเทศที่สิงคโปร์ ช่วงต้นเดือน ก.พ.63 และเริ่มมีการเจรจาในเดือน มิ.ย.63 ส่วนที่เลื่อนการชี้ขาดส่วนหนึ่งมาจากสถานการณ์โควิด – 19 แต่ละครั้งที่เลื่อนไม่มีเรื่องการให้สิทธิประโยชน์มาเกี่ยวข้องแต่อย่างใด ส่วนที่คิงส์เกตสามารถเปิดเผยข้อมูลได้ แต่ไทยกลับไม่เปิดเผยข้อมูลใดๆนั้น ในหลักการตราบใดที่ยังไม่มีการอ่านคำชี้ขาด ทั้งสองฝ่ายจะไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลในชั้นอนุญาโตตุลาการได้ ซึ่งข้อมูลที่คิงส์เกตนำมาเปิดเผยไม่ใช่ข้อมูลในคดี แต่เป็นเอกสารข่าวของบริษัท และเป็นข้อมูลจากการเจรจายุติข้อพิพาทที่คิงส์เกตอยากจะได้และเรียกร้อง ซึ่งไม่ใช่ข้อตกลงของสองฝ่าย

ส่วนที่อ้างว่าฝ่ายไทยมีโอกาสแพ้และเสียค่าโง่ พร้อมกับหยิบยกคดีต่างประเทศมาเทียบเคียงนั้น จากข้อมูลทางการเงินของบริษัท อัคราฯ ที่ประกอบกิจการเหมืองทองในประเทศไทยตั้งแต่ปี 2543- 2558 มีกำไร 1.1 หมื่นล้านบาท เมื่อเทียบกับค่าเสียหายที่อ้าง 3 หมื่นล้านบาท บริษัท อัคราฯ ต้องประกอบกิจการถึง 38 ปี ส่วนการกล่าวหาว่าการสำรวจแร่ การนำผงเงินไปจำหน่าย เพื่อประนีประนอมแลกเปลี่ยนให้ถอนฟ้องคดีก็ไม่เป็นความจริง ซึ่งการยื่นคำขออนุญาตอาชญาบัตรสำรวจแร่ 44 แปลง ก็เกิดขึ้นในสมัยนายทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี โดยบริษัท อัคราฯ ยื่นขอสำรวจเมื่อปี 2546 – 2548

 ต่อมาปี 2549 คำขออยู่ระหว่างการพิจารณาเตรียมเสนอขออนุมัติแต่เกิดรัฐประหารก่อน กระทั่งปี 2550 สมัยพล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ เป็นนายกฯ มีมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ให้ชะลอการอนุญาตอาชญาบัตรพิเศษสำรวจแร่ทองคำไว้ก่อน เพื่อจัดทำนโนบายทองคำให้เกิดประโยชน์แก่ประเทศและประชาชน กระทั่งปี 2557 ประชาชนรอบเหมืองประสบปัญหาสุขภาพจากการทำเหมือง และความขัดแย้งของประชาชนในพื้นที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในฐานะหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) จึงส่งหน่วยงานจาก 4 กระทรวงลงไปตรวจสอบ และมีข้อเสนอให้ยุติการทำเหมืองไว้ก่อน พล.อ.ประยุทธ์ จึงมีคำสั่งคสช.ที่ 72/2559 เมื่อวันที่ 3 ธ.ค.59 ให้ยุติการทำเหมืองชั่วคราว และให้กระทรวงอุตสาหกรรม ไปปรับปรุงการทำเหมืองทองคำใหม่ ต่อมาวันที่ 1 ส.ค.60 ครม.มีมติรับทราบนโนบายทองคำ มีผลให้บริษัท อัคราฯ ยื่นขออนุญาตอาชญาบัตรพิเศษที่เคยยื่นค้างไว้ และที่บริษัท อัคราฯ ยังไม่กลับมาเดินเรื่องต่อทันที เพราะมีการฟ้องร้องคดีกันอยู่เกรงว่าจะกระทบรูปคดีในช่วงนั้น

นายสุริยะ กล่าวว่า ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาราคาทองคำสูงขึ้น เป็นเหตุให้บริษัท อัคราฯ กลับมาขอสำรวจแร่ กระทรวงอุตสาหกรรม จึงดำเนินการตามระเบียบที่เกี่ยวข้อง จนอนุญาตอาชญาบัตรสำรวจแร่ให้ในเดือน พ.ย.63 หากสำรวจเจอแหล่งแร่ และประกอบการทำเหมืองทองคำได้ รัฐจะได้ประโยชน์จากค่าภาคหลวง และค่าภาษีเงินได้นิติบุคคล รวมถึงมีการจ้างงานในพื้นที่ ที่สำคัญการออกอาชญาบัตร 4 แสนไร่ เป็นการให้สิทธิสำรวจแร่ในพื้นที่ที่กำหนด ซึ่งพื้นที่อนุรักษ์สัตว์ป่าไม่อนุญาตให้มีการสำรวจ ยืนยันว่า การอนุญาตอาชญาบัตรพิเศษพื้นที่ 44 แปลง เป็นการดำเนินการตามระเบียบกฎหมายทุกประการ ไม่มีการแทรกแซงเร่งรัดแลกเปลี่ยนกับการถอนฟ้องคดีแต่อย่างใด