“สุริยะ” เตรียมถกเอกชนเพื่อสรุปแนวทาง

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม
  • แก้ปัญหาสิ้นสุดมาตรการพักชำระหนี้ธปท. 
  • ผลักดันแนวทางขอยืดหนี้เอกชน
  • เน้นกลุ่มเอสเอ็มอีออกไปอีก 2 ปี  

 นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม เปิดเผยว่า  ตนจะหารือกับภาคเอกชน เช่น สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย  ถึงมาตรการพักชำระหนี้ ให้แก่ภาคธุรกิจของธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)ที่จะสิ้นสุดเดือนต.ค.นี้ เนื่องจากภาคเอกชน มีข้อเรียกร้องที่ต้องการให้ธปท.ยืดอายุมาตรการดังกล่าวออกไปอีก 2 ปี เพื่อเป็นการช่วยเหลือผู้ประกอบการโดยเฉพาะวิสาหกิจขนาดกลางและย่อม(เอสเอ็มอี)ที่ยังคงประสบปัญหาด้านสภาพคล่องเพราะได้รับผลกระทบจากโควิด-19

 “เอสเอ็มอีเกือบทุกๆกิจการ กำลังประสบปัญหาอย่างรุนแรง ทำให้ภาคเอกชนโดยเฉพาะส.อ.ท.ต้องการให้ธปท.ยืดเวลาชำระหนี้ออกไปอีก 2 ปีเพราะเห็นว่าโควิด-19 ยังแพร่ระบาดในต่างประเทศรอบที่2 และยังไม่มีแนวโน้มคลี่คลายลง  ซึ่งผมก็เห็นด้วยที่จะต้องช่วยกลุ่มเอสเอ็มอี ให้มีโอกาสดำเนินกิจการต่อไปให้ได้ เพราะเอสเอ็มอีกว่า2.5ล้านกิจการ ก็มีการจ้างงานหลายล้านคน แม้ว่าหลายๆกิจการมีโอกาสรอดน้อยหรือมีประวัติทางการเงินไม่ดี แต่ก็ต้องมาแยกเป็นรายๆกิจการ เพื่อหาทางช่วยเหลือให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้” 

นายสุริยะ กล่าวว่า ข้อสรุปที่จะได้จากการหารือ อาจนำเสนอผ่านคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน(กกร.)เพื่อเสนอให้ธปท.รับไปพิจารณาต่อไปและยืนยันว่า กระทรวงอุตสาหกรรมได้ให้ความสำคัญกับการปรับโครงสร้างการผลิตของภาคอุตสาหกรรม เพื่อให้สอดรับกับการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีและตลาดโลกที่มุ่งเน้นการปรับสินค้าควบคู่กันไป โดยล่าสุด ได้มอบให้กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.)เข้าไปทำโครงการพัฒนาเอสเอ็มอีในด้านต่างๆ ที่ไม่ใช่มุ่งเน้นเพียงด้านการเงินเนื่องจากหากสินค้าจำหน่ายได้ดีขึ้นปัญหาด้านการเงินก็จะหมดไป    

สำหรับการส่งเสริมโครงการยานยนต์ไฟฟ้า(อีวี) ถือเป็นนโยบายหนึ่งที่รัฐบาลและกระทรวงฯจะสนับสนุนให้เกิดขึ้น ซึ่งนอกเหนือจากรองรับการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีแล้วเป้าหมายหลักคือการลดฝุ่นละอองขนาดเล็กพีเอ็ม 2.5 แม้ว่าจะมีนักลงทุนมายื่นขอส่งเสริมการลงทุนกับสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน(บีโอไอ)แล้ว แต่อุปสรรคสำคัญคือแบตเตอรี่ที่มีราคาแพงทำให้ราคาจำหน่ายอีวีมีราคาสูงกว่ารถยนต์ ที่ใช้น้ำมันค่อนข้างมาก ดังนั้นแนวทางที่จะผลักดันให้เกิดขึ้นคือการเพิ่มการใช้รถอีวีให้มากขึ้นด้วยการลดภาษีนำเข้าชิ้นส่วนเพื่อให้ราคารถอีวีถูกลง  

 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ส.อ.ท.ได้เรียกร้อง ให้ ธปท.พักชำระเงินต้นต่ออีก 2 ปี แต่จะขอชำระดอกเบี้ย 6 เดือนแรกเพียง 10% ของดอกเบี้ยที่มีอยู่ โดยเป็นอัตราดอกเบี้ยปกติไม่ใช่ดอกเบี้ยประเภทผิดชำระหนี้ แล้วที่เหลือ 90% ขอค้างไว้ก่อน เมื่อสภาพเศรษฐกิจและผู้ประกอบการเริ่มฟื้นตัวก็สามารถพิจารณาเรื่องการชำระหนี้ส่วนที่เหลือได้ต่อไป