- ให้ความสำคัญการทำแบบประเมินตัวเอง
- เพื่อลดการแพร่ระบาดของโควิด-19
- นำร่องโรงงานท่ีมีคนงานเกิน200คนขึ้นไป
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ได้ส่ังการให้กรมโรงงานอุตสาหกรรม(กรอ.)เร่งประชาสัมพันธ์ขอความร่วมมือโรงงานอุตสาหกรรมทั่วประเทศ ให้ประเมินตนเองผ่านแบบประเมินตนเอง Thai Stop Covid plusและ Thai Save Thai ให้แล้วเสร็จภายในเดือนมิ.ย.นี้ ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มออนไลน์ที่กรมอนามัย ได้พัฒนาขึ้น โดยแพลตฟอร์มได้ แนะนำด้านสาธารณสุข ในการป้องกันการแพร่ระบาดฯ แนวทางปฏิบัติสำหรับผู้ประกอบการ ผู้ปฏิบัติงาน แนวทางการปฏิบัติกรณีพบผู้ติดเชื้อ ซึ่งผู้ประกอบการต้องประเมินตนเองอย่างน้อยทุกๆ 2 สัปดาห์ ขณะที่พนักงานก็ต้องประเมินตนเอง ผ่านแพลตฟอร์ม Thai Save Thai ก่อนเข้าโรงงาน เพื่อป้องกันความเสี่ยงไม่ให้มีการแพร่เชื้อโควิด-19ในสถานประกอบการ
ท้ังนี้ กรอ.จะได้ร่วมมือกับกรุงเทพมหานคร คัดเลือกโรงงานเป้าหมายในพื้นที่กรุงเทพฯ ที่มีจำนวนคนงานมากกว่า 200 คน ซึ่งมีจำนวน 278 โรงงาน จำแนกเป็นโรงงานที่มีคนงาน 200 – 500 คน จำนวน 206 โรง โรงงานที่มีคนงาน 500 – 1,000 คน จำนวน 40 โรง และโรงงานที่มีคนงานมากกว่า 1,000 คน จำนวน 32 โรง เป็นโรงงานที่ประกอบกิจการเกี่ยวกับอาหารหรือแปรรูปอาหาร โรงงานตัดเย็บเสื้อผ้า และโรงงานอื่นๆ
นายประกอบ วิวิธจินดา อธิบดีกรอ. กล่าวว่า กลุ่มเป้าหมายแรกที่ กรอ. ร่วมกับ กรุงเทพฯ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการลงพื้นที่ตรวจสอบ จำนวน 40 โรงงาน โดยคัดเลือกจากโรงงานที่มีความเสี่ยงสูง และโรงงานที่มีความแออัดในพื้นที่ปฏิบัติงานก่อน และเป็นโรงงานที่ประกอบกิจการเกี่ยวกับอาหาร หรือการแปรรูปอาหารทุกขนาด จำนวน 12 โรง และโรงงานที่มีความแออัดเนื่องจากมีจำนวนคนงานมากกว่า 1,000 คน จำนวน 28 แห่ง
ท้ังนี้ นอกจากการทำแบบประเมินดังกล่าวแล้ว กรอ.ยังได้จัดทำคู่มือแนวปฏิบัติแผนรับมือโควิด-19 สำหรับสถานประกอบกิจการ ( BCP) เพื่อให้แต่ละโรงงานเตรียมรับมือและเตรียมความพร้อม ในการประคองกิจการให้สามารถประกอบกิจการต่อไปได ้แม้ในยามวิกฤตหรือฉุกเฉิน ซ่ึงได้มีการกำหนดแนวทาง ดังนี้1.จัดตั้งทีมบริหารความต่อเนื่องของธุรกิจ และจัดให้มีเจ้าหน้าที่อย่างน้อย 1 คน เป็นศูนย์กลางบริหารจัดการความต่อเนื่องของธุรกิจ
2.ระบุวิกฤติหรือเหตุฉุกเฉินและผลกระทบต่อสถานประกอบกิจการ อาทิ อาคารและสถานที่ วัสดุอุปกรณ์ เทคโนโลยีและข้อมูลสำคัญ บุคลากรและทรัพยากรทางการเงิน และคู่ค้า/ผู้ให้บริการ/ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย 3.วางกลยุทธ์ความต่อเนื่องทางธุรกิจเพื่อเป็นแนวทาง จัดหาและบริหารทรัพยากรให้มีความพร้อมเมื่อเกิดวิกฤต
4. ฝึกซ้อมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของแผนบริหารความต่อเนื่อง โดยโรงงานอุตสาหกรรมควรฝึกซ้อมอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง เพื่อให้พนักงานมีความพร้อม อยู่เสมอ รวมถึงปรับปรุงแผนการบริหารความต่อเนื่องของธุร
#Thejournalistclub#โรงงานอุตสาหกรรม #โควิด19