วันนี้ (17 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า ในช่วงบ่ายวันเดียวกันนี้ นายประทีป กีรติเรขา รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ฝ่ายการเมือง ในนามสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ได้เชิญองค์กรภายนอกที่มีสาขาตั้งอยู่ในภายในทำเนียบรัฐบาล อาทิ ธนาคารออมสิน ธนาคารกรุงไทย ร้านเซเว่นอีเลฟเว่น และสาขาของบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด เข้าร่วมประชุม เพื่อเตรียมความพร้อมรับมือ กลุ่มผู้ชุมนุมในวันที่ 19 ก.ย.นี้
ต่อมาเวลา 14.30 น. พ.ต.อ.วัชรวีร์ ธรรมเสมา ผู้กำกับการ 4 กองบังคับการตำรวจสันติบาล 3 ผู้รับผิดชอบพื้นที่ทำเนียบรัฐบาลให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุม ว่า การประชุมในวันนี้เป็นการหารือถึงข้อปฏิบัติในช่วงจะมีการชุมนุม ระหว่างวันที่ 19-20 ก.ย. รวมถึงการเตรียมความพร้อมหากการชุมนุมส่งผลให้ข้าราชการและเจ้าหน้าที่ไม่สามารถเข้ามาปฏิบัติงานภายในทำเนียบรัฐบาลได้ ในวันที่ 21 ก.ย. ที่ประชุมมีความเห็นร่วมกันให้ ทุกหน่วยงานภายในประจำทำเนียบรัฐบาลเก็บสิ่งของจำเป็นและเอกสารสำคัญออกตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป รวมถึงเคลื่อนย้ายรถยนต์ ที่จอดค้างคืนออกจากทำเนียบรัฐบาลด้วย สำหรับกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่จะใช้ในการดูแลพื้นที่ภายในทำเนียบรัฐบาลคาดว่าจะใช้ประมาณ 1-2 กองร้อย ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับสถานการณ์
พ.ต.อ.วัชรวีร์ กล่าวต่อว่า ขณะเดียวกัน ก็จะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจจากกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ที่เตรียมความพร้อมอยู่ด้านนอก หากเกิดเหตุจำเป็นภายในทำเนียบรัฐบาลก็จะสามารถเข้ามาร่วมปฏิบัติหน้าที่ภายในทำเนียบรัฐบาลได้เลย อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจจะประเมินสถานการณ์รายวันอยู่ตลอด เบื้องต้นเชื่อว่าจะไม่เกิดเหตุรุนแรง และคาดว่า จะไม่มีการบุกเข้ามาภายในทำเนียบรัฐบาลเหมือนกับการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่เคยบุกเข้ามาในทำเนียบรัฐบาล เมื่อปี พ.ศ. 2551 ทั้งนี้พื้นที่ทำเนียบรัฐบาลเป็นเขตหวงห้าม หากผู้ชุมนุมฝ่าฝืนบุกเข้ามา ถือว่ากระทำผิดตามพระราชบัญญัติการชุมนุมสาธารณะ พ.ศ. 2558 คาดว่าจะมีการตรึงกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจของ บช.น. เพื่อให้ผู้ชุมนุมเคลื่อนขบวนมาถึงได้แค่บริเวณเชิงสะพานมัฆวานรังสรรค์
เมื่อถามว่า จะไม่อนุญาตให้ผู้ชุมนุมเข้ามาในพื้นที่ทำเนียบรัฐบาล และลานพระรูปทรงม้าใช่หรือไม่ พ.ต.อ.วัชรวีร์ กล่าวว่า ใช่ เมื่อถามต่อว่า ในการหารือวันนี้ได้ประเมินหรือไม่ว่าการชุมนุมดังกล่าวจะยืดเยื้อออกไปหรือไม่ พ.ต.อ.วัชรวีร์ กล่าวว่า จะต้องมีการประเมินสถานการณ์กันอีกครั้ง
เมื่อถามย้ำว่า นายกรัฐมนตรีจะสามารถเข้ามาปฏิบัติงานในทำเนียบรัฐบาลในวันจันทร์ ที่ 21 กันยายน ได้ตามปกติหรือไม่ พ.ต.อ.วัชรวีร์ กล่าวว่า ต้องประเมินสถานการณ์กันอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ที่จะเข้ามาปฏิบัติงานภายในทำเนียบรัฐบาลจะต้องเป็นผู้ที่มีภารกิจจำเป็น และต้องติดบัตรแสดงตนที่ทางทำเนียบรัฐบาลออกให้ ทั้งข้าราชการและผู้สื่อข่าว แต่ไม่อนุญาตให้นำรถยนต์เข้ามาจอดภายในทำเนียบรัฐบาล โดยได้ตั้งศูนย์ประสานงานร่วมที่ตึก 20
ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาล ว่า สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีได้มีหนังสือถึงหน่วยงานภายในทำเนียบรัฐบาล ในช่วงระหว่างการชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม โดยมีเนื้อหาว่า ด้วยสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี (สลน.) มีภารกิจสำคัญและมีความจำเป็นจะต้องใช้พื้นที่ภายในบริเวณทำเนียบรัฐบาล ระหว่างวันที่ 18-20 ก.ย.นี้ กองสถานที่ ยานพาหนะ และรักษาความปลอดภัย สลน.จึงออกเอกสารประชาสัมพันธ์แจ้งข้าราชการและผู้ปฏิบัติงานภายในทำเนียบรัฐบาล ขอความร่วมมือห้ามจอดรถยนต์ชั่วคราว ในวันศุกร์ที่ 18 ก.ย.นี้ ตั้งแต่เวลา 16.30 น. จนถึงวันอาทิตย์ที่ 20 ก.ย.นี้ ดังนั้น หากมีภารกิจไปราชการต่างจังหวัด และ ประสงค์จะจอดรถยนต์ไว้ ขอให้ติดต่อประสานงานกลุ่มบริหารการรักษาความปลอดภัย กองสถานที่ฯ เพื่อจัดที่จอดรถ ภายในบ้านพิษณุโลกและบ้านมนังคศิลา สำหรับผู้ที่มีความจำเป็นต้องเข้ามาปฏิบัติภารกิจในช่วงเวลาดังกล่าว อนุญาตให้เข้ามาได้ทางประตูสะพานอรทัย และเข้าประตู 8 ได้ทางเดียว
ผู้สื่อข่าวรายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาล ว่า การประชาสัมพันธ์ขอความร่วมมือดังกล่าว เพื่อเป็นการจัดเตรียมสถานที่ อำนวยความสะดวกแก่เจ้าหน้าที่ ในการนำกำลังเข้ามาดูแลความปลอดภัยและรักษาความสงบเรียบร้อย ช่วงที่จะมีการชุมนุมวันที่ 19 ก.ย. และกลุ่มผู้ชุมนุมประกาศจะเคลื่อนขบวนมาบริเวณทำเนียบรัฐบาลในช่วงเช้าวันที่ 20 ก.ย.ด้วย
