สิงห์รถบรรทุกอีสานโอดครวญ…สุดอั้น ขอปรับขึ้นค่าขนส่ง 10% แซะรัฐอย่ามัวแต่อุ้มนายทุน วอนตรึงราคาต่อ

วันนี้ (7 มิ.ย.65) นายสมคิด กิ่งกรดกลาง นายกสมาคมขนส่งสินค้าภาคอีสาน เปิดเผยว่า จากกรณีคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) มีมติปรับขึ้นราคาน้ำมันดีเซลลิตรละ 1 บาท เมื่อวานนี้ (6 มิ.ย.) ทำให้ราคาขายปลีกในพื้นที่ภาคอีสานตั้งแต่บัดนี้เฉลี่ยลิตรละ 34.25 บาท ส่งผลให้ผู้ประกอบการขนส่งสินค้าภาคตะวันออกเฉียงเหนือกว่า 700 ราย บริหารจัดการรถบรรทุกประมาณ 20,000 คัน ต้องแบกรับภาระต้นทุนค่าเชื้อเพลิงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

อีกทั้งประกอบกับช่วงวิกฤตโควิด-19 งานรับจ้างก็ได้ลดลงต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่มรถบรรทุกหิน ดิน ทราย หรือวัสดุก่อสร้างนับพันคัน ต่างได้รับผลกระทบมากที่สุดและต้องจอดทิ้งไว้ นอกจากนี้ผู้ประกอบการที่สายป่านสั้นต้องกู้หนี้ยืมสินมาใช้จ่ายประคับประคองให้อยู่รอด 

“ขณะนี้เข้าสู่ฤดูฝนสิ้นสุดการเก็บเกี่ยวผลผลิตเกษตรกรรมทำให้งานรับจ้างลดน้อยลงอีก แล้วมาเจอน้ำมันแพงอีกยิ่งไปกันใหญ่ พวกเรายอมรับและเข้าใจสภาวะตลาดน้ำมันโลก และเพื่อความอยู่รอดต้องปรับค่าขนส่งขึ้น 5-10% หากราคาพุ่งถึง 35 บาท ก็ต้องปรับขึ้นเสมือนเป็นขั้นบันไดไปเรื่อยๆ” นายกสมาคมขนส่งสินค้าภาคอีสาน กล่าว

อย่างไรก็ตาม นอกจากต้องแบกรับภาระต้นทุนการขนส่งเฉลี่ย 40% เป็นราคาน้ำมันเชื้อเพลิงยังต้องดูแลพนักงานอีกหลายชีวิต ฝากถึงรัฐบาลมีหลายช่องทางที่สามารถช่วยเหลือเยียวยาได้ แต่กลับไปเลือกอุ้มนายทุนและโรงกลั่นน้ำมันหากตรึงราคาดีเซล 5-10 เดือน หากเป็นไปได้อยากให้ลดลงกว่านี้ นอกจากผู้ประกอบการจะเดือดร้อนแล้ว คำตอบสุดท้ายประชาชนต้องแบกรับภาระจากสินค้าอุปโภค บริโภคที่ทยอยปรับขึ้นตามมาเป็นลูกโซ่ไปตามๆ กัน